Page 950 - หนังสือเมืองลับแล(ง)
P. 950

ยองชู อาจหมายถึง การตั้งรวมไว้ อยู่ด้วยกัน รวมกัน พร้อมกัน


               คะลุก อาจหมายถึง ขะลึบ, กะลึบ (ลักษณะของที่วางซ้อนกันอยู่เป็นตั้ง)


               เมียก อาจหมายถึง เมือก (สิ่งที่มีลักษณะเหนียวๆลื่นๆ อับชื้น เปียกชื้น) กรณีนี้อาจหมายถึงโคลน หรือดินผสม

               ด้วย น้ำ ฟางข้าว มูลสัตว์ เช่นขี้วัว ขี้ควาย เป็นต้น


                                                       ิ่
               คะทุก อาจหมายถึง คะตึก (อาคารก่อด้วยอิฐ สงก่อสร้างที่เป็นถารวัตถุอิฐฉาบปูน มั่นคง) หรืออาจหมายถึง
               ขะตุก (หลุม อย่างหลุมหลบภัย)


               ตาย อาจหมายถึง ต้าย (เพนียด-กำแพงที่ใช้ไม้แก่นหรือท่อนซุงปักเรียงกันเป็นแนวรั้ววางขวาง ถ้าตัวยืน

                                                                              ี้
               เรียกว่า ลำต้าย หรือ ลำเวียง) ในความหมายนี้ ตายเตี้ย อาจหมายถึง ต้ายเตย หรือรั้วเพนียดที่ไม่สูงนัก

                                                                                                     ้
               หรือ ตายเตี้ย อาจหมายถึงคำว่า สะทาย (ปูนขาวผสมน้ำกับทราย ใช้ในการก่อสร้าง หากต้องการให้แขงแรง
               พิเศษให้ผสมด้วยยางจากไม้ไก,น้ำแช่ฟางข้าว ,กาวที่เคี่ยวจากหนังสัตว์ น้ำอ้อย หรือไข่ขาวเป็นต้น ) สะทายจน
                                                                                                        ี
               (ปูนปั้น-ปูนขาวและทรายที่ผสมที่ผสมน้ำมันจากต้นทะลอก หรือ ปูนปั้นที่ทำจาก ชัน อิฐหัก และน้ำมันยาง

               โขลกให้เข้ากัน)


                สุบู หมายถึง สะบู, ซะบู, ลำบู (ปืนใหญ่)

               หอผ่อดู หมายถึง หอคอย หรืออาคารสูง ไว้สำหรับสอดส่องดูข้าศึกศัตรู





                                                               ้
                                                       ่
                       เมื่อทำการประมวลความหมายของคำตางๆเข้าดวยกัน อนุมานได้ว่าค่ายที่พม่าสร้างขึ้นทเมืองลบแล
                                                                                                      ั
                                                                                                ี่
               นั้นเป็นค่ายขนาดใหญ่ มีการขุดหลุมหรือร่องเพื่อหลบภัยและซ่อนตัวต่อสู้ อาจนำดินที่ขุดนั้นมาก่อกองเรียง
               เป็นแนวคันดินหรืออาจมีอิฐผสม แล้วนำท่อนซุงหรือไม้แก่นมาปักสร้างรั้วเพนียด ใช้เมียก โคลนหรือดินผสม

               ด้วยน้ำ ฟางข้าว และมูลสัตว์ มาททาพื้นผิวของรั้วค่ายเพื่อความแข็งแรง มีการสร้างหอผ่อดูหรือหอสูงไว้

               สอดส่องดูแลเฝ้าระวังภยันตราย รวมถึงติดตั้งปืนใหญ่ไว้โดยตลอดรั้วค่าย

                       คร่าวบทที่ ๑๖๖ ยังกล่าวว่า หื้อแปงยุ้งเยีย แต่งตั้งวางไว้ ขับขนข้าวมาชวาง ละไล้ คือมีคำสั่งให้


               สร้างยุ้งฉางแล้วให้นำข้าวมาเทใส่ไว้
                       คร่าวบทที่ ๑๖๗- ๑๖๘ กล่าวว่า แต่งลูกทัพ ออกไปสะลืน หาเอาคน บางพร่องก่ได้ ความนี้หมายถึง
               พม่าให้ทหารออกไปหาเอาผู้คนบางครั้งก็พบเจอเข้าโดยบังเอิญ ไปตีปาง เอาแม่ชาวใต้ มาเป็นเพื่อนนอน

               นวดฟั้น ชุมแก่เฒ่า พอใดพอนั้น ก็เอาไว้นึ่งข้าว สุมไฟ หมายถึง ทหารพม่าเข้าโจมตีที่พักแรมในป่าที่สร้าง

               ขึ้นชั่วคราว ได้หญิงชาวใต้มาเป็นคู่นอน ส่วนที่เป็นคนแก่ก็ให้คอยมาดูแลเรื่องการทำอาหารหรือทำงานอื่น
               ความตรงนี้กล่าวถึงชาวใต้ ซึ่งน่าจะหมายถึงชาวลับแล เพราะในอดีตเมืองใต้สำหรับชาวล้านนาคืออยุธยาซึ่ง



                                                   ภาคผนวก ~ หน้า ๘๐ ~
   945   946   947   948   949   950   951   952   953   954   955