Page 949 - หนังสือเมืองลับแล(ง)
P. 949

เนื้อความสำคัญที่เกี่ยวพันกับพื้นที่ใกล้ๆหรืออาณาเขตของเมืองลับแลง(เมืองลับแล) ควรพิจารณาคร่าวบทท  ี่

               ๑๕๙ ที่กล่าวถึง เดือนสามแก้ว ก็เพียบเพ็งมา ซึ่งระบุช่วงเวลาเดือนสาม วันเพ็ญ จากนั้นคร่าวบทที่ ๑๖๒
               กล่าวถึงทัพพม่าไปปลงทัพหรือจัดตั้งทัพที่ ปางสักหลวง ซึ่งอาจหมายถึงพื้นที่บริเวณรอยต่อของอาณาจักร

               ล้านนากับสยาม จากนั้นทัพพม่าจึงเคลื่อนเข้าสู่อาณาเขตของเมืองลับแลบริเวณห้วยเกียงภา ซึ่งห้วยเกียงภา

                                                                                                        ุ
               นั้นยังคงปรากฏอยู่จวบจนปัจจุบัน ห้วยเกียงภาเป็นแม่น้ำที่ไหลมาจากเขาพลึงมารวมกับห้วยกั้ง ซึ่งในที่สด
               แล้วจะนำไปสู่พื้นราบบริเวณม่อนคีรีเมืองที่เป็นที่ตั้ง ด่านคีรีเมือง ของเมืองลับแล
                                                                                                         ่
                       คร่าวบทที่ ๑๖๔ กล่าวว่าทัพพม่ามาถึงห้วยเกียงภาเมื่อวันลุนขึ้นสองค่ำ หมายถึง เดือน ๓ ขึ้น ๒ คำ
                                                                                                        ้
               (อังคาร ๑๖ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๓๑๖) กวีได้กล่าวว่าที่ห้วยเกียงภานี้ ม่านแต่งการหื้อ บ่มีที่เทิกเท้า (เทิกเทา
               ในภาษาล้านนาแปลว่า มากมาย คับคั่ง หรือ บ่มีที่ทึกที่เท้า ซึ่งหมายถึงไม่มีที่สิ้นสุด) ดังนั้นความนี้อาจแปลได ้

               ว่า พม่าจัดการให้เหล่าทหารต่างเมืองทำงานมากมายไม่มีที่หมดสิ้น ขณะเมื่อตั้งอยู่ที่บริเวณห้วยเกียงภานี้

                       คร่าวบทที่ ๑๖๕ – ๑๖๖ กล่าวว่า เถิงเดือนแรมสามค่ำยามเช้า เข้าสู่ห้องลับแลง หมายถึง เดือน ๓
                                                                                                     ้
                                                                                          ั
               แรม ๓ ค่ำ ยามเช้า (พฤหัสบดี ๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๓๑๖)  ทัพพม่าจึงสามารถยกเข้าสู่เมืองลบแลได้โดยใชเวลา
               ราวครึ่งเดือน นัยตรงนี้สื่อถึงว่าพม่าสามารถตีเมืองลับแลแตก ส่วนข้อมูลจาก พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา

               ฉบับพระพนรัตน์ วัดพระเชตุพน ที่ให้ข้อมูลว่า กองทัพโป่สุพลาเข้าตีเมืองลับแลแตกเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๑๕
                                              ี่
                       กวียังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าทเมืองลบแลนี่เองที่กองทัพพม่าไดทำการ แปงทัพใหญ่กว้าง หรือจดสร้าง
                                                    ั
                                                                                                    ั
                                                                         ้
               กองทัพให้มีขนาดใหญ่ ซึ่งอาจหมายถึงการเอาชายฉกรรจ์เมืองลับแลที่พ่ายสงครามเข้าไว้ในกองทัพด้วย
                       เมื่อทำการเทียบเคียงกับข้อมูลจากพงศาวดารกรุงธนบุรีฉบับพันจันทนุมาศ หนังสือเจาพระยาจักรีฯ
                                                                                              ้
               ถึงเจ้าพระยาสวรรคโลก ฉบับที่ ๔  ความว่า “นายฝองหนีมาแต่กองทัพพม่าให้การว่า พระเจ้าอังวะป่วยตาย

               ลูกพระเจ้าอังวะขึ้นเป็นเจ้าเมืองอังวะ...หนังสือมาณ วัน ๑ ๑๒ ค่ำ  จุลศักราช ๑๑๓๖ ปีมะเมียฉอศก (พ.ศ.

               ๒๓๑๗)”
                                                                    ิ
                       และข้อมูลจากหนังสือเจ้าพระยาจักรีฯถึงพระศรีสวัสด ฉบับที่ ๕ ความว่า “นายฝองชาวเมืองลับแล
               หนีมาแต่กองทัพโป่ชุกพลา ให้การว่าพระเจ้าอังวะเป็นไข้ตาย ลูกเจ้าอังวะผู้ตายขึ้นครองราชย์สมบัตแทนบิดา
                                                                                                  ิ
                                             ั
               ... หนังสือมาณ วัน ๑ ๑๒ ค่ำ  จุลศกราช ๑๑๓๖ ปีมะเมียฉอศก (พ.ศ.๒๓๑๗)”


                       พันจันทนุมาศ (เจิม), ๒๔๘๐, พระราชพงศาวดารกรุงธนบุรี ในประชุมพงศาวดารภาคที่ ๖๕,

               กรุงเทพ: เดลิเมล, หน้า ๑๐๕-๑๐๖
                             ์
                       พิจารณาความแล้วเป็นไปได้ว่า นายฝองชาวเมืองลับแลอาจถูกกวาดต้อนเข้าใส่ในกองทัพโปสุพลา

               เมื่อคราวเมืองลับแลแตกปีพ.ศ.๒๓๑๖ แล้วหลบหนีออกมาได้ในปี พ.ศ. ๒๓๑๗

                       นอกจากนี้แล้วเนื้อความในคร่าวยังบอกอีกว่า พม่าได้เกณฑ์ผู้คนจากทุกเมือง(ทัพผสม)มาช่วยกัน
               แปงยองชู คะลุก ทังเมียกทา และแม่คะทุก ไทยว่าตายเตย สุบู หอผ่อดู แต่งไว้ชุกล้ำ ความตรงนี้กลาวถึงการ
                                                               ี้
                                                                                                  ่
                                                                                              ่
               สร้างป้อมค่ายของพม่าทเมืองลบแล ด้วยความที่กวีเป็นคนยองจึงมีคำศัพททออกเสยงสำเนียงตางไปจากไทย
                                    ี่
                                         ั
                                                                                    ี
                                                                              ี่
                                                                             ์
               วนล้านนาเชียงใหม่ จึงควรทำการพิจารณาคำและความหมายของคำศัพท์ที่พบอย่างรอบคอบดังนี้

                                                   ภาคผนวก ~ หน้า ๗๙ ~
   944   945   946   947   948   949   950   951   952   953   954