Page 54 - งานทดลอง
P. 54

ิ
                   ั
                          
                      ั
             วารสารวจยและพฒนาดานสขภาพ
                            ุ
                                 ี
                         ั
                ั
                        ุ
              ํ
             สานกงานสาธารณสขจงหวดนครราชสมา
                           ั
                                   ั
                                 ั
             เวลาการทํางานนานและสมผสสาร BTEX มาอยาง เปนพังผืดสงผลใหความจุอากาศภายในปอดทําได
                        ั
                 ื
                 ่
                                  ั
               
                        ้
                                    ั
                          ี
                     ี
                                                           [17]
                                                                        ึ
             ตอเนอง อกทงมโอกาสรับสมผสจากการกระบวนการ ลดลง  ทงนผลการศกษาสมรรถภาพปอดพบวา
                                                               ั
                                                                  ี
                                                                  ้
                                                               ้
                                  ่
                                     ิ
                  ํ
                  ้
               ิ
                      ้
             เตมนามนเชือเพลิง โดยเฉลียเตมประมาณ 3.1 ครง ้ ั  กลมผขบรถจกรยานยนตรบจางมคาสมรรถภาพปอด
                    ั
                                                         ุ
                                                         
                                                                               ี
                                                                          ั
                                                                            
                                                                         
                                                           
                                                                 ั
                                                           ู
                                                                                
                                                            ั
                           ี
                 ั
                                      ี
                                 ิ
                            ี
                           ่
             ตอวน  ในชวงทมการเตมจะมไอระเหยออกมา      ไดแก %FVC และ FEV1/FVC ตากวากลมพนกงาน
                                                                                         ั
                                                                                ่
                                                                                  
                                                                                     
                                                         
                                                           
                                                                                ํ
                                                                                     ุ
                      ุ
                    ี
             ไดมากทสด   สาหรับขอมลการสวมใสอปกรณ    ในสานกงานอาคารปดอยางมนยสาคญทางสถต     ิ
                           ํ
                    ่
                                    ู
                                               ุ
                       [16]
                                                                            
                                                                               ี
                                                                                            ิ
                                                                                   ํ
                                                                                     ั
                                                             ั
                                                           ํ
                                                                        
                                                                                ั
                                               ั
                                                  
                                             
               
             ปองกันทางระบบทางเดินหายใจ พบวา กลมตวอยาง  (p<0.05) เชนเดยวกนกบการศกษาในประเทศมาเลเซย
                                         
                                             ุ
                                                                                            ี
                                                               
                                                                  ี
                                                                       ั
                                                                            ึ
                                                                     ั
                    ุ
             สวมใสอปกรณปองกันระบบทางเดินหายใจบางครัง   พบกลมรบสมผสมลสารจากการจราจรมสดสวน
                                                   ้
                                                              ั
                                                                   ั
                                                                 ั
                                                                                       ี
                                                            ุ
                                                                                           
                                                                                        ั
                                                            
             รอยละ 24.0 โดยเปนการสวมใสหนากากอนามัย  %FVC ผดปกต รอยละ 59.4 ในขณะทกลมไมรบ
                                                                                     ่
                                                                     
                                                                   ิ
                                                                                     ี
                                                              ิ
                                                                                            ั
                                                                                        
                                                                                           
                                                                                        ุ
                                           ่
                                       ั
                                           ึ
                                             ื
                                   ้
                                   ั
                            ํ
                            ้
             และหนากากผาใสซาหลายครงตอวน ซงถอเปนการ  สมผสมสดสวนผดปกต รอยละ 33.3 ทงสองกลม
                                                                           
                                                                                            
                                                                                            ุ
                                                             ี
                                                                          ิ
                                                                     ิ
                                                               ั
                                                                 
                                                           ั
                                                                                     ั
                                                        ั
                                                                                     ้
                     ุ
                               ั
                                             ิ
             สวมใสอปกรณปองกนทางระบบทางเดนหายใจ                                        [5]
                                                                        
                                                                                        ิ
                                                                    ั
                                                                 
                                                        ี
                                                                                         ิ
                                                                               ํ
                                                                                 ั
                                                                            ั
                                                                           ี
                ั
                                              ั
                                                ั
             ทยงไมถกประเภทและความเสียงจากการรบสมผส    มความแตกตางกนอยางมนยสาคญทางสถต
                                     ่
                    ู
                                                   ั
               ่
               ี
                                                                         
                                                                                            
                                        ื
                     ี
                                  ั
                                  ้
                               ั
             สารอนทรยระเหยได ดงนนควรเลอกสวมหนากาก          ผลกระทบตอระบบประสาท  พบวา
                  ิ
                                                         ั
                                                        
                                                                                          ่
                                                                           ั
                                                        ู
                                                                             
                   ี
                   ่
                            ั
                                  ํ
             ชนดทเหมาะสมกบการทางานบนทองถนนและ         ผขบรถจักรยานยนตรบจางเกิดความถีของ
                ิ
                                                           ิ
                                                                                         ิ
                                            ิ
             ตรงตามมาตรฐานของประเทศสหรฐอเมรกาเนองจาก   พฤตกรรมอาการทางระบบประสาท 10 พฤตกรรม
                                               ่
                                       ั
                                               ื
                                                        ้
                                                        ึ
                                                              
                                                                                 
                                                                          ึ
                                                                          ่
                                                                                         ั
                                                                                     
             มไสกรองเปนแบบ R–series  ทสามารถปองกัน  ขนไป รอยละ 52.0 ซงมากกวากลุมพนกงาน
                                       ี
               ี
                                       ่
                                                             ั
                                                                                            ื
                                                                                            ่
                                                                           ี
                                                                           ่
                                               ้
                                ่
                                 
             อนภาคและไอระเหยทังทเปนนามนและไมใชนามนได    ในสํานกงานอาคารปดทพบรอยละ 11.5 เมอ
                                               ํ
                             ้
                                            
                                ี
                                              
                                    ้
                                    ํ
                ุ
                                                 ั
                                     ั
                                                                                
                                                                                      
                                                        ิ
                                                                                         
                                                               ํ
                                                                                         ู
                                                                                          ั
                  ี
             และมประสทธภาพการกรองไมตากวา 95 %          พจารณาจาแนกพฤติกรรมรายขอ พบวา ผขบรถ
                                      ํ
                                     
                                      ่
                         ิ
                                         
                      ิ
                     ผลกระทบตอระบบทางเดินหายใจ  จักรยานยนตรับจางมีพฤติกรรมวางสิ่งของตาง ๆ ไว
                                                               
                                                                ้
                                                                ั
                                                                            ู
                                                                            
             ซงผขบรถจักรยานยนตรบจางเกิดอาการไอ โดยไมไดตงใจแลวลืม รสกถงความออนแรง
                                                                              ึ
                                                                                ึ
               ึ
                                      
               ่
                 
                   ั
                 ู
                                   ั
                                                                               
                                                                                     ี
                                                                            ึ
                                                                                         
             มเสมหะ รองลงมาไอแหง และหายใจถีเมอเดน ของแขนและเทา และรูสกออนเพลย รอยละ
               ี
                                                ื
                                                ่
                                              ่
                                                   ิ
                                                                                     ื
                                                                                       ิ
                                                                                   ่
                                                                                     ่
                                                                             ํ
             พนราบหรอลาดเอยงเล็กนอย รอยละ 36.0 28.0  52.0 48.0 และ 48.0 ตามลาดบ ซงเมอวเคราะห  
                                                                               ั
                                                                                   ึ
                            ี
                      ื
                                  
                                       
               ้
               ื
                                                                             ู
                                                                             
             และ 28.0 ตามลําดบ โดยอาการไอมีเสมหะและ chi–square test พบวา ผขบรถจักรยานยนต
                                                                               ั
                             ั
                                                                                ึ
                                                                              
                                                               ั
                                                                  
             หายใจถแตกตางจากกลมพนกงานในสานกงาน รบจางมีสดสวนเกิดความรูสกความออนแรง
                                                        ั
                         
                                 
                                 ุ
                    ่
                                     ั
                    ี
                                             ํ
                                               ั
                                                                   
             อาคารปดอยางมนยสาคญทางสถต สอดคลองกบ  ของแขนและเทา อารมณเปลยนแปลงรวดเรว และ
                                                                             ่
                                                                          
                                                                             ี
                                                                                         ็
                                         ิ
                            ั
                                       ิ
                                                   ั
                    
                              ํ
                                               
                                ั
                          ี
             Fandi และคณะ  พบวา กลมทรบสมผสสาร BTX  มีความเชื่องชาในการทํากิจวัตรประจําวันมากกวา
                                         ั
                                  
                                     ี
                          [5]
                                     ่
                                  ุ
                                      ั
                               
                                           ั
             มอาการไอ และหายใจถีตนมากเปน 3.8 และ  กลุมสํานักงานอยางมีนัยสําคัญทางสถิติ สอดคลอง
                                  ่
                                   ื
               ี
                                   ้
             3.4 เทาของกลมทไมไดรบสมผสซงอาการไอ กบ Kaukiainen และคณะ  พบวากลมคนงาน
                                                                                      ุ
                                                                            [11]
                                                                                      
                                                        ั
                          
                          ุ
                             ่
                                   ั
                                           ึ
                                      ั
                                        ั
                                           ่
                             ี
                               
                                  
                   
                                                                             ี
                                                                               ี
                                                               ั
                                                                 ํ
                                                                              
             เปนปฏกรยาอตโนมตในการขบสงแปลกปลอม ทสมผัสตวทาละลายอินทรยมอาการลาทางกาย
                                                        ่
                                                        ี
                                                          ั
                              ั
                         ั
                               ิ
                      ิ
                                         ่
                                         ิ
                                      ั
                          ิ
               
                   ิ
                                                                             
             ออกนอกรางกายในรปของเสมหะ และอาการ และอารมณแปรปรวนไดงายและมีความเสียง
                                                                                           ่
                      
                               ู
                                                                                ้
                                                                     ่
                                                                                   ั
                                                        
             หายใจถเมอเดนพนราบหรอลาดเอยงเลกนอย ตอการอักเสบทีสมองแบบเรือรง (chronic
                            ้
                      ่
                    ี
                    ่
                            ื
                         ิ
                      ื
                                           ี
                                               ็
                                                  
                                    ื
                                                                        
             เปนอาการบงบอกถงผลกระทบในระยะเรอรง ทงน encephalopathy) ไดในอนาคต และ Godderis
                       
                                               ั
                                                  ั
                                                    ้
               
                                                  ้
                                                    ี
                            ึ
                                             ื
                                             ้
                                                                    
             อาจจากเกดกระบวนการอกเสบของระบบทางเดน และคณะ   ไดประเมินพฤติกรรมทางระบบ
                                                               [18]
                     ิ
                                  ั
                                                   ิ
             หายใจ เนอเยอถกทาลายแลวเกดการซอมแซม ประสาทโดยใชแบบสอบถามมาตรฐาน swedish
                                              
                         ่
                              ํ
                                     
                         ื
                      ้
                           ู
                      ื
                                        ิ
             54   ปท 6 ฉบบท 2 (กรกฎาคม – ธนวาคม 2563)
                                   ั
                    ี
                    ่
                         ี
                       ั
                   
                         ่
   49   50   51   52   53   54   55   56   57   58   59