Page 89 - งานทดลอง
P. 89
ิ
ุ
ั
ั
วารสารวจยและพฒนาดานสขภาพ
ํ
ี
ั
ั
สานกงานสาธารณสขจงหวดนครราชสมา
ั
ุ
ี
ั
้
ู
ไดแก ขนตอนการเตรยมแปลงปลก รอยละ 39.31 มีจํานวนผูปวยจากพิษสารเคมีกําจัดศัตรูพืชเพิ่มขึ้น
ู
ั
้
ี
ขนตอนการปลก รอยละ 64.10 ขนตอนการฉดพน จากป พ.ศ. 2553 รอยละ 2.47 ป พ.ศ. 2554 รอยละ
ั
้
้
ี
ํ
ื
ั
ั
ู
ั
สารเคมกาจดศตรพช รอยละ 97.87 และขนตอน 3.97 ป พ.ศ. 2555 รอยละ 7.95 ป พ.ศ. 2556 รอยละ
ํ
ื
ั
ั
ํ
ุ
ั
การกาจดวชพช รอยละ 60.69 ตามลาดบ สาเหต 8.65 ป พ.ศ. 2557 รอยละ 9.98 ป พ.ศ. 2558 (รอยละ
ํ
ี
การใชสารเคมกาจดศตรพชในทกขนตอน 8.95 และป พ.ศ. 2559 รอยละ 18.79 อตราตอ
ั
ื
ั
ุ
ู
้
ั
ั
ิ
ี
่
ั
่
ี
ํ
่
ี
ี
ั
ู
ุ
การปลกผกมความเกยวของกบรายไดเฉลยตอเดอน แสนประชากร จงเปนปญหาสาคญยงททกภาคสวน
ั
่
ื
ึ
จากการปลูกผกระหวาง 4,001 – 6,000 บาท ตองหาแนวทางลดอัตราการปวยจากพษสารเคมี
ั
ิ
ื
ั
้
ี
่
ํ
ั
ื
ู
รอยละ 39.74 และพนทในการปลกสวนใหญ กาจดศตรพช (ICD–10 รหส T60.0–T60.9)
ู
ั
เปนพนทเชารายป รอยละ 56.41 จงเปนเหตทาให จังหวัดนครราชสีมามีกลุมเกษตรกรผูปลูกผักในเขต
ุ
ํ
ึ
ื
้
ี
่
ึ
ี
ู
ั
ุ
ั
ื
เกษตรกรตองใชสารเคมกาจดศตรพชในทกขนตอน อาเภอเมองกระจายอยในพนท 12 ตาบล ซงลกษณะ
ํ
ั
้
่
่
้
ํ
ื
ี
ํ
ื
ั
ู
ื
ํ
้
ื
้
้
่
ี
ี
่
ั
ุ
ั
การปลูกเพือใหคมคากบลงทุน การเลียงชพและ ของพนททาการเกษตรและการอยูอาศยในพนท ่ ี
ํ
ื
่
การเชาพนทตอป จากขอมลในสวนนจงเชอมโยง ทาการเกษตรไมไดอยไกลมาก จงเปนอกสาเหต ุ
ี
ื
ึ
่
้
้
ี
ี
ู
ู
ึ
ิ
ไปยงผลการตรวจหาสารเคมีในเลอดของ ทสงผลใหเกดการสะสมและตกคางของสารเคมี
ื
่
ี
ั
ี
ู
้
ื
ื
ื
่
ี
ู
ั
ํ
ื
ํ
ั
ู
ื
ํ
ํ
เกษตรกรผปลกผกในพนท 12 ตาบล ในอาเภอเมอง กาจดศตรพชในเลอดของเกษตรอาเภอเมองทพบวา
ั
่
่
ู
ั
ี
ั
ี
ั
จงหวดนครราชสมา อยในระดบเสยงและไมปลอดภัยเปนสวนใหญ
่
่
่
ี
่
ี
้
ู
ื
ี
ั
ํ
ผลการตรวจหาระดับเอนไซมคลอรีน จากขอมลแผนทพนทเสยงทไดจดทาดวยระบบ
ี
ิ
ื
ู
เอสเตอเรสในเลอด พบวา เกษตรกรผปลกผกอาเภอ สารสนเทศภูมศาสตรสามารถระบุขอมลพนท ่ ี
้
ื
ู
ํ
ู
ั
ู
้
ื
เมองสวนใหญมสารเคมีในเลือดอยูในระดับเสยง สขภาพไว 4 ระดบในพนท 12 ตาบล จากขอมล
ั
ี
ุ
่
ี
ี
ื
่
ํ
ู
รอยละ 42.30 รองลงมาคออยในระดบไมปลอดภย ในแผนทจะเหนวาลกษณะพืนททาการเกษตร
้
ื
ํ
่
็
ี
ั
่
ี
ั
ั
ึ
้
ี
ั
ั
ู
รอยละ 33.00 จากขอมลการตรวจหาระดบเอนไซม มอาณาเขตตดตอกน และการศกษาครงนไดทา
ํ
ี
ิ
้
ั
ั
้
ื
คลอรนเอสเตอเรสในครังนสอดคลองกบขอมล การวเคราะหหาความสมพนธ พบวา ขนาดของพนท ี ่
ี
้
้
ั
ิ
ู
ั
ี
ี
ั
ั
ั
ํ
ิ
ิ
ี
ั
ื
ั
ู
อาการผดปกตหลังจากการใชหรอสมผสสารเคม ทาการปลกมความสมพนธกบระยะเวลา การปลก
ู
ี
ํ
ี
กาจดศตรพชในรอบ 1 เดอนทผานมาของเกษตรกร อยในทศทางลบ รวมถงขนตอนการปลกมสมพนธ
ั
ั
ื
ั
ั
ู
้
ึ
่
ั
ื
ู
ู
ิ
ี
ั
ํ
้
ั
ั
ิ
พบวา สวนใหญมอาการผิดปกติ รอยละ 52.56 กบขนตอนการบารง ดแลผกในทศทางบวก สามารถ
ู
ุ
ี
้
ึ
ิ
และอาการทีเกดขนสวนใหญจดอยในกลมท 1 วเคราะหไดวาผลการตรวจหาสารเคมในเลอดทพบ
่
่
ี
ั
ุ
ู
ื
ี
ิ
่
ิ
ั
ิ
่
ี
ั
ื
ื
ั
้
ั
่
ั
คอ ผนคนทผวหนง ตมพพอง หายใจตดขดและ ในระดบเสยงและไมปลอดภยนนเกดจากระยะเวลา
ั
ิ
ุ
ุ
ี
่
่
ั
้
่
ึ
ึ
ออนเพลีย รอยละ 73.17 ซงผลการศกษาในครงน การปลกรวมถงขนตอนการทาการเกษตรซงเกยวของ
ึ
้
ํ
ี
ู
ึ
ั
ี
่
้
ุ
ั
ู
ํ
ั
ื
ึ
ั
ี
้
ี
ยงคงชใหเหนวาการใชสารเคมกาจดศตรพช กบสารเคมจงสงผลใหเกดผลกระทบตอสขภาพ
ั
ี
็
ิ
ู
ั
ู
ั
ี
ั
ั
ุ
ึ
ไดสงผลตอสขภาพของเกษตรกร สมพนธกบขอมล จากผลการศกษาพบวาเกษตรกรผปลกผก มอาการ
ู
ิ
ื
ึ
ั
ั
ํ
ู
การปวยจากพษสารเคมีกาจดศตรพช (ICD–10 เบองตน แตหากมศกษาเชิงลกและการติดตาม
ึ
ื
ี
้
ั
่
ั
ั
ื
่
รหส T60.0–T60.9) ป พ.ศ. 2553 – 2559 สานกโรค อยางตอเนองอาจจะพบวามอาการทเพมในระดบ 2
ี
่
ํ
ี
ิ
ู
ั
จากการประกอบอาชีพและสงแวดลอม พบวา หรอ 3 ไดในกรณทเกษตรกรยงคงใชสารเคมอยตอไป
ื
ี
ี
่
่
ิ
ี
[10]
่
ั
ั
ี
ี
่
ปท 6 ฉบบท 2 (กรกฎาคม – ธนวาคม 2563) 89