Page 43 - รายงานPLCกลุ่มสาระวิทย่ศาสตร์ ช่วงชั้นที่2
P. 43

37



              กฎการสะท้อน







                    การสะท้อนบนพื้นผิวที่ต่างกัน รังสีสะท้อนจะพุ่งไปต่างทิศทาง


                    กฎการสะท้อนของแสง ( Law of Reflection )


                                                                           ิ
                  มุมตกกระทบคือมุมที่รังสีตกกระทบ (Incident ray) ท ากับเส้นปกต (Normal) ของผิวสะท้อน
                  มุมสะท้อน (Reflected ray) คือมุมที่รังสีสะท้อนท ากับเส้นปกต  ิ

              กลไกของการสะท้อน

                    จากความรู้เกี่ยวกับทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าคลาสสิก แสงถูกจัดให้เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าชนิดหนึ่งซึ่งสามารถ

              อธิบายได้ด้วยสมการของแมกซ์เวลล์ ด้วยหลักการนี้สามารถอธิบายกลไกการสะท้อนของแสงได้ กล่าวคอ คลื่นแสงซึ่ง
                                                                                                  ื
              ตกกระทบลงบนผิวของวัตถุท าให้เกิดการสั่นสะเทอนและเกิดการโพลาไรซ์ในระดับอะตอม (หรือการสั่นของ
                                                      ื
                                                                         ุ
                                                                    ่
              อิเล็กตรอนในกรณีของโลหะ) ซึ่งส่งผลให้อนุภาคเหล่านี้เกิดการแผคลื่นทติยภูมิในทุกทศทาง ซึ่งท าให้เกิดหลักการของ
                                                                                    ิ
              ออยเกนส์และเฟรชเนลซึ่งอธิบายว่าคลื่นทตยภูมิเหล่านี้เองคือการสะท้อนแบบสมบูรณ์กลบสู่ตัวกลางที่หนึ่งและการ
                                                                                       ั
                                                ุ
                                                  ิ
              หักเหเข้าสู่ตัวกลางทสอง
                               ี่
                    ในกรณีของฉนวนไฟฟ้าเช่นแก้ว สนามไฟฟ้าจากคลื่นแสงที่เกิดปฏสัมพันธ์กับอิเล็กตรอนในแก้ว อิเลกตรอนท ี่
                                                                          ิ
                                                                                                     ็
              สั่นเหล่านี้สร้างสนามไฟฟ้าขึ้นและกลายเป็นตัวส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า การหักเหของแสงในแก้วที่สังเกตได้เป็นคลื่น
                                                      ี่
              ลัพธ์ที่ได้จากการรวมคลื่นตกกระทบเข้ากับคลื่นทปล่อยออกมาจากการสั่นของอนุภาคของแก้วในทิศทางเดียวกันกับ
              คลื่นตกกระทบ ในขณะทคลื่นจากการสั่นของอนุภาคของแก้วในทิศตรงกันข้ามท าให้เกิดการสะท้อนที่สังเกตได้ การ
                                  ี่
              แผ่รังสีของอนุภาคของตัวกลางนี้เกิดขึ้นทั่วไปในแก้วแต่ผลลัพธ์ที่ได้เทียบเท่ากับการสะท้อน ณ พื้นผิวแต่เพียงอย่าง

              เดียว
   38   39   40   41   42   43   44   45   46   47   48