Page 9 - C:\Users\Acer\Documents\Flip PDF Professional\ebook\
P. 9
วรรณศิลป์
แปล
เป็ น = อุปลักษณ์
ตอนนั้นที่นางมัทรีที่เดินออกจากที่พัก ในใจก็เอาแต่คิดถึงลูกตลอด เดินไปก็
ระรัวริก = อัพภาส
ทุกข์ไป แก้มทั้งสองข้างก็เต็มไปด้วยน ้าตา นางมัทรีได้สังเกตว่าป่ านั้นมีความ
วะหวีด = อัพภาส
ผิดปกติไป และสงสัยว่าท าไมต้นที่มีผลไม้กลับกลายเป็ นดอกไม้ส่วนต้นที่มี
ดั่ง = อุปมา
ดอกไม้ก็กลายเป็ นผลไม้ ลมพัดดอกไม้ร่วงลงมามากมาย ทั้งๆที่ตนก็เคยเก็บ
พระลูกแก้ว = อุปลักษณ์ แปลว่า สองกุมาร
ดอกไม้เหล่านั้นมาร้อยให้ลูก นางมัทรีรู้สึกว่ามองไปทางไหนก็มืดมัว อีกทั้ง
อกเอ๋ยจะทําไฉนดี = ปฏิปุจฉา
ท้องฟ้ าก็เปลี่ยนเป็ นสีแดง นางรู้สึกได้ถึงลางร้ายที่จะเกิดขึ้น ตาก็เริ่มพร่ามัว
ใจและตัวก็เริ่มสั่น คานที่หาบไว้ก็ล่วงลงจากบ่ารวมทั้งของในมือก็ล่วงหล่นไป รัตนคูหาห้องแก้ว = อุปลักษณ์
ด้วยซึ่งประหลาดอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งทุกข์เรื่องลูกของตน
นางจึงรีบเดินรีบเก็บผลไม้ใส่นางกระเป๋ า พอเจอกับเสือโคร่ง เสือเหลือง และ
สิงโต นางก็กลัวจนใจสั่น และร้องไห้พูดว่าเป็นกรรมของตน เวลาก็สายมากแล้ว
ลูกๆคงคอยอยู่ แต่ทางที่เดินระหว่างหุบเขา ก็ดันมีสัตว์ร้ายทั้งสามตัวมาขวางอีก
จะไปทางอื่นก็ไม่ได้ ทั้งสองข้างทางก็โดนกั้นไว้ ท้องฟ้ าก็จะมืด นางไม่รู้ว่าจะต้อง
ทําอย่างไรดีถึงจะสามารถเดินต่อไปได้ จึงเอาคานที่หาบไว้ลงแล้วยกมือไหว้บอก
สัตว์ทั้งสาม และพูดว่าโปรดรับการเคารพ เบญจางค์ ประดิษฐ์นี้ด้วย พระนางมี
นามว่า มัทรี เป็นภรรยาของพระเวสสันดรแต่ได้จากบ้านเมืองมาอยู่ป่ า ตัวน้องก็
ตามมาด้วยใจบริสุทธิ์แสดงความกตัญํูจงรักภักดีต่อสามี พระอาทิตย์จะตกแล้ว
เวลานี้จะเป็ นเวลาที่ลูกหิวนม ขอให้พวกท่านกลับไปหาลูกเมียท่าน แล้วฉันจะ
แบ่งผลไม้ไห้ ส่วนที่เหลือฉันจะเอาไปฝากลูกกับสามี พวกท่านทั้งสามได้โปรด
ปล่อยฉันไปเถิดเห็นแก่ที่น้องขอร้อง 6