Page 154 - จดหมายเหตุ final-2
P. 154
ต่อมำรัชสมัยพระบำทสมเด็จพระมหำภูมิพลอดุลยเดชมหำรำช บรมนำถบพิตร ในกำร
ิ
ั
�
ี
พลีกรรมตักน้ำ ณ สถำนท่ศักด์สิทธิ์ในพระรำชอำณำจักร แล้วน�ำมำต้งประกอบพิธีเป็นน้ำสรง
�
พระมุรธำภิเษกในกำรพระรำชพิธีบรมรำชำภิเษก เม่อพุทธศักรำช ๒๔๙๓ ท�ำพิธีเสกน้ำ ณ มหำเจดียสถำน
�
ื
และพระอำรำมต่ำง ๆ ในรำชอำณำจักรจ�ำนวน ๑๔ แห่ง เท่ำกับรัชสมัยพระบำทสมเด็จพระปกเกล้ำ
ี
ี
เจ้ำอยู่หัว แต่เปล่ยนสถำนท่จำกเดิม ๑ แห่ง คือ จำกวัดพระธำตุช่อแฮ จังหวัดแพร่ เป็นวัดพระธำต ุ
�
�
ึ
แช่แห้ง จังหวัดน่ำนแทน ส่วนน้ำจำกสระสองห้อง เมืองพิษณุโลก ซ่งเคยน�ำมำเป็นน้ำสรง
ื
ุ
ั
พระมรธำภิเษก ในรัชสมัยพระบำทสมเด็จพระปกเกล้ำเจ้ำอยู่หัวไม่ได้ใช้ในคร้งน้ เน่องจำกแหล่งน้ำ
ี
�
ดงกล่ำว ต้นเขินจนไม่มีน้ำ จึงใช้แต่เพียงน้ำจำกทะเลแก้ว และท�ำพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ ณ พระวิหำร
�
�
�
ื
ั
พระพุทธชินรำช วัดพระศรีรัตนมหำธำตุวรมหำวิหำร
ื
จำกหนังสือเร่อง "บรมราชาภิเษก" พระนิพนธ์ในพระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยลำภพฤติยำกร
ได้ทรงอธิบำยไว้ว่ำ พระรำชพิธีบรมรำชำภิเษก รัชสมัยพระบำทสมเด็จพระปรมินทรมหำภูมิพลอดุลยเดช
ิ
ิ
�
ิ
ิ
บรมนำถบพิตร พุทธศักรำช ๒๔๙๓ ได้ใช้น้ำศักด์สิทธ์จำกแหล่งน้ำศักด์สิทธ์ในจังหวัดพิษณุโลก
�
ถอเป็นรำชประเพณีท่สืบต่อกันมำ เน่องจำกจังหวัดพิษณุโลกเป็นเมืองส�ำคัญมำแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ี
ื
ื
พระรำชพิธีบรมรำชำภิเษก รัชสมัยพระบำทสมเด็จพระมหำภูมิพลอดุลยเดชมหำรำช บรมนำถ
�
บพิตร พุทธศักรำช ๒๔๙๓ ใช้น้ำศักด์สิทธ์จำกทะเลแก้ว ประกอบพิธีอภิเษกท่วัดพระศรีรัตนมหำธำตุ
ิ
ี
ิ
ี
วรมหำวิหำร ประธำนในพิธี คือ ขุนจรรยำวิเศษ (เท่ยง บุณยนิตย์) ข้ำหลวงประจ�ำจังหวัดพิษณุโลก
ประธำนพิธีสงฆ์ คือ พระพิษณุบุรำจำรย์ (แพ พำกุโล) เจ้ำอำวำสวัดพระศรีรัตนมหำธำต ุ
�
วรมหำวิหำร และเจ้ำคณะจังหวัดพิษณุโลก และในพระรำชพิธีคร้งส�ำคัญต่อมำได้น�ำน้ำจำก
ั
“สระสองห้อง” ในเขตโบรำณสถำนพระรำชวังจันทน์ มำท�ำน้ำอภิเษก ประกอบพิธีตำมโบรำณ
�
รำชประเพณีจ�ำนวน ๓ คร้ง คือ คร้งท่ ๑ พระรำชพิธีมหำมงคลเฉลิมพระชนมพรรษำ ๕ รอบ
ั
ี
ั
๑๕๔

