Page 110 - inside_7decades_1_Edit2.indd
P. 110
ื
เคร่องหมำยตรำโล่เขน
ิ
ี
“โล่เขน” สัญญลักษณ์ท่คุ้นตาของคนท่วไป และเป็นส่งท่ท�าให้นึกถึง “ต�ารวจ” ปัจจุบันเคร่องหมาย
ี
ั
ื
ี
ื
่
ี
ึ
โล่เขน เป็นเครองหมายราชการของกรมต�ารวจ ซงได้มีประกาศส�านักนายกรัฐมนตร ฉบับท 43
่
่
ี
ลง 23 มี.ค. 2506 ก�าหนดรูปลักษณะไว้ดังน้ “เป็นรูปพระแสงดาบและโล่ ซ่งเป็นรูปวงกลมเส้นคู่ 2 ช้น
ึ
ั
วงนอกเป็นลายกนกประจ�ายามก้ามปู และวงในมีรูปหน้าสิงห์ มีลายกนกเปลวเพลิงประกอบ”
่
ุ
ั
ื
ิ
ั
ี
่
ั
ิ
ี
่
่
ั
โล่เขนทกรมต�ารวจใช้เป็นเครองหมายอยู่ในปัจจบน เป็นสงทมประวตและวิวฒนาการค่กบ
ี
ู
กจการต�ารวจมาแต่โบราณกาล โดยในสมยกรงศรอยธยา ประมาณปี พ.ศ. 2178 รชชสมย
ั
ั
ั
ุ
ี
ิ
ุ
สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ได้โปรดเกล้าฯ ก�าหนดตรากระทรวงต่าง ๆ ไว้ในพระธรรมนูญ รวม 21 ตรา
ในจ�านวนน้มีตราส�าหรับพระต�ารวจหลวงกลาง รวม 2 ตรา คือ
ี
- ตราขุนธรเณทร์ เป็นตราส�าหรับขุนธรเณนทรเทพบดีศรีสมุห ได้แก่ ตราคนมือซ้ายถือฆ้องระวัง
- ตราขุนเทเพนทร์ เป็นตราส�าหรับขุนเทเพนทรเทพบดีศรีสมุห ได้แก่ ตราคนมือขวาถือฆ้องระวัง
ส�าหรับต�าแหน่งต�ารวจนอกเหนือจากข้างต้น หาได้ถือตราฆ้องระวังไม่ แต่ให้ถือตราดังน ี ้
- ต�ารวจในซ้าย ต�ารวจในขวา ให้ใช้ “ตราคนถือดาบ”
- ต�ารวจใหญ่ซ้าย ต�ารวจใหญ่ขวา ให้ใช้ “ตราคนถือหวาย”
- ต�ารวจนอกซ้าย ต�ารวจนอกขวา ให้ใช้ “ตราคนถือหอก”
ั
ื
ส�าหรับท่มาของการใช้ฆ้องเป็นเคร่องหมายแสดงถึงต�ารวจน้น ปรากฏในกฎมณเฑียรบาล
ี
ึ
ตอนหน่งว่า “อน่ง ถ้าคนอยู่ในพระราชวัง ออกไปเอกก็ดี ผู้ใดลักพาไปขายก็ดี ท�าชู้เมียก็ดี ให้ทวน
ึ
ึ
ั
ผู้ลักพาน้นด้วยลวดหนัง 50 ที แล้วให้สักรูปคนไว้ในหน้า เอาเฉลวปะหน้าให้นายชะมองตีฆ้องรอบเมือง” ซ่ง
นายชะมองผู้ตีฆ้องรอบเมืองน้ก็คือ ต�ารวจกลาง ผู้มีหน้าท่ตีฆ้องร้องป่าวประกาศพระราชกฤษฎีกา
ี
ี
และพระราชโองการ
นอกจากน้ลวดลายของรูปฆ้องท่มีต่าง ๆ กัน เช่น รูปหน้าสิงห์ รูปราหูอมจันทร์ รูปกนกเปลว นอกจาก
ี
ี
จะเป็นสญญลกษณ์แห่งความเชอถอในทางไสยศาสตร์แล้ว ยงเป็นความเชอทางผสาง เทวดาเจอปนด้วย เช่น
ั
ื
่
ั
ื
ั
ื
ื
่
ี
ั
• รูปหาหูอมจันทร์ น่าจะหมายถึงผู้ถือฆ้องหรือโล่น้น สามารถครอบง�าสรรพสัตว์หรือต่อสู้อริราชศัตร ู
ื
ได้ทุกเม่อ
• รูปสิงห์แยกเข้ยวแสยะปากอันน่ากลัว ก็จะหมายถึงท�าให้เป็นที่สะพรึงกลัวของคนท่ว ๆ ไป
ั
ี
ี
จากความเป็นมาดังกล่าวแล้ว ต่อมาประมาณ พ.ศ. 2440 ในสมัยรัชกาลท่ 5 ได้ทรงก�าหนด
ื
ี
ึ
ตราประจ�าต�ารวจข้น โดยทรงเปล่ยนรูปฆ้องกับดาบเป็น “ดาบพาดปากโล่” และ ภายหลังเม่อปี พ.ศ. 2453
ื
ี
ื
สมัยรัชกาลท่ 6 ได้โปรดเกล้าให้ตราเคร่องหมายโล่กับดาบเป็นเคร่องหมายประจ�ากรมพลตระเวน และได้
เป็นตราราชการของกรมต�ารวจจนทุกวันน ้ ี
จากการทกล่าวมาสรปได้ว่า การน�าเอาโล่กบดาบมาใช้เป็นตราประจ�ากรมต�ารวจอย่ทกวนน ้ ี
ั
ุ
ู
ุ
ั
ี
่
ก็เน่องมาจากตราของต�ารวจกลาง คือ ฆ้อง เปล่ยนมาเป็นโล่ ส่วนตราของต�ารวจ ต�ารวจใหญ่ ต�ารวจนอก
ี
ื
ี
ี
ึ
ซ่งถือดาบ ถือหวาย ถือหอก เปล่ยนมาเป็นดาบ แล้วรวมกันเป็นรูปโล่กับดาบ หรือท่เรียกกันว่า “โล่เขน”
๗ ทศวรรษ...โรงพิมพ์ต�ำรวจ 111