Page 35 - นิราศ อีบุ๊ก
P. 35
นิราศภูเขาทอง 35
พินิจคุณค่าพิจารณาวรรณคดี
๒
คุณค่าทางสังคม (ต่อ)
๒.๒ สภาพสังคมและวิถีชีวิต
นิราศภูเขาทองสะท้อนวิถีชีวิตและวัฒนธรรมแสดงให้เห็นถึงสภาพบ้านเมือง สังคม วัฒนธรรม
และวิถีชีวิตของผู้คน รวมถึงความหลากหลายของเชื้อชาติ ได้แก่ ชาวมอญและชาวญวนที่เข้ามาตั้งถิ่น
ฐานอยู่ริมแม่น้ าเจ้าพระยา ดังนี้
ไปพ้นวัดทัศนาริมท่าน้ า แพประจ าจอดรายเขาขายของ
มีแพรผ้าสารพัดสีม่วงตอง ทั้งสิ่งของขาวเหลืองเครื่องส าเภา
ถึงบ้านญวนล้วนแต่โรงแลสะพรั่ง มีข้องขังกุ้งปลาไว้ค้าขาย
ตรงหน้าโรงโพงพางเขาวางราย พวกหญิงชายพร้อมเพรียงมาเมียงมอง
ตลาดแก้วแล้วไม่เห็นตลาดตั้ง สองฟากฝั่งก็แต่ล้วนสวนพฤกษา
โอ้รินรินกลิ่นดอกไม้ใกล้คงคา เหมือนกลิ่นผ้าแพรด ามะเกลือ
ถึงแขวงนนท์ชลมารคตลาดขวัญ มีพ่วงแพแพรพรรณเขาค้าขาย
ทั้งของสวนล้วนแต่เรือเรียงราย พวกหญิงชายชุมกันทุกวันคืน
ถึงเกร็ดย่านบ้านมอญแต่ก่อนเก่า ผู้หญิงเกล้ามวยงามตามภาษา
เดี๋ยวนี้มอญถอนไรจุกเหมือนตุ๊กตา ทั้งผัดหน้าจับเขม่าเหมือนชาวไทย
๒.๓ ความรู้เกี่ยวกับที่มาสถานท ี่
นิราศภูเขาทองยังสอดแทรกเกร็ดความรู้ต่าง ๆ น่าสนใจเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของสถานที่
ต่าง ๆ เช่น ชื่อวัดประโคนปักมีที่มาจากการปักเสาหินไว้บริเวณนี้เพื่อแบ่งเขต สามโคก ได้ชื่อว่าปทุมธานี
ซึ่งเป็นชื่อพระราชทานจากรัชกาลที่ ๒ เนื่องจากมีบัวมาก รวมทั้งเล่าถึงมหรสพตลอดจนการละเล่นต่าง ๆ
เช่น งานฉลองผ้าป่า การร้องเพลงเกี้ยวแก้กัน การขับเสภา ดังนี้
ถึงอารามนามวัดประโคนปัก ไม่เห็นหลักลือเล่าว่าเสาหิน
เป็นส าคัญปันแดนในแผ่นดิน มิรู้สิ้นสุดชื่อที่ลือชา
ถึงสามโคกโศกถวิลถึงปิ่นเกล้า พระพุทธเจ้าหลวงบ ารุงซึ่งกรุงศรี
ประทานนามสามโคกเป็นเมืองตรี ชื่อปทุมธานีเพราะมีบัว
มาจอดท่าหน้าวัดพระเมรุข้าม ริมอารามเรือเรียงเคียงขนาน
บ้างขึ้นล่องร้องล าเล่นส าราญ ทั้งเพลงการเกี้ยวแก้กันแซ่เซ็ง
บ้างฉลองผ้าป่าเสภาขับ ระนาดรับรัวคล้ายกับนายเส็ง
มีโคมรายแลอร่ามเหมือนส าเพ็ง เมื่อคราวเคร่งก็มิใคร่จะได้ดู