Page 151 - ธรรมะบรรยาย1525
P. 151
ี่
อยู่กับช้างไปอยู่กับลิง ทนี้ชาวบ้านทั้งหลายเห็นว่าพระทะเลาะกัน ไม่รู้จักให้อภัยกัน ไม่ให้ความ
เคารพแด่พระพุทธเจ้า ก็ประท้วงเรียกว่า “คว่ าบาตร” คือไม่ใส่บาตรพระ พระทั้งหลายก็อด พออด
แล้วก็อยู่ไม่ได้ เพราะชีวิตของพระขึ้นอยู่กับชาวบ้าน เมื่อพระไม่ได้ฉันภัตตาหารมากเข้า ๆ ก็ทนไม่
ี่
ไหว ก็มาปรองดองกัน สามัคคีกัน ขอโทษซึ่งกันและกัน ในทสุดก็อ้อนวอนพระอานนท์เถระให้ไป
้
ช่วยกราบอาราธนาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจากลับมาที่โกสัมพีด้วยเถิด ในที่สุดพระพุทธเจ้า
ก็ทรงรู้วาพระทั้งหลายลดทิฐิมานะลงไปแล้ว จึงได้เสด็จมา นี่ก็เห็นได้ว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้แสดง
่
พระองค์จะแสดงอภินิหารก็ได้ แต่พระองค์ไม่แสดง เรามีเงินอยู่เป็นล้านเป็นแสนเราไม่ใช้ก็ได้ หรือ
จะใช้ก็ได้ เราจะใช้เกิดประโยชน์ ไม่ใช้ก็เกิดประโยชน์อยู่ที่บ้านไม่ได้เสียหายอะไร
เพราะฉะนั้น การแสดงปาฏิหาริย์ เรามีไว้ มันเป็นผลของการสร้างบุญวาสนาบารมี คนเราก็
เกิดมานี่ก็ได้รูปร่างหน้าตาหล่อสวยเหมือนกันหมดสิ คนเราที่เกิดมาก็ได้สติปัญญาเลอเลิศ
ี่
เหมือนกันหมดสิ คนเราทเกิดมานี้จะต้องเป็นคนที่ไม่จนสักคน มีแต่คนรวยทั้งนั้นสิ มันเป็นไปไม่ได้
่
ท าไมถึงเป็นไปไม่ได้ เพราะคนสร้างบุญกุศลมาไม่เทากัน จะเป็นไปได้อย่างไร เราได้แต่ปรารถนาไม่
้
ท าจะได้อย่างไร ปรารถนาด้วยท าด้วยสิ อย่างพระพุทธเจาปรารถนาแล้วก็ทาล้มลุกคลุกคลานมา
เหมือนกัน เกิดอยู่ในโลกก็มี รู้ได้อย่างไร ประวัติท่านเขียนไว้ อย่างคราวเตมีย์ใบ้ เตมีย์ท าไมใบ้ด้วย
ก็รู้ว่าพระองค์ระลึกชาติได้ว่าเคยเป็นพระราชาและตัดสินคนผิด คนติดอยู่ในคุกหรือในตาราง การ
ตัดสินคนผิดเป็นเหตุให้พระองค์ตกนรก พระองค์ระลึกได้อย่างนี้แล้ว โอ้ อย่างนี้ไม่เป็นพระราชา
ดีกว่า ก็เลยท าตัวของพระองค์ให้เป็นใบ้คือไม่พูด เดือดร้อนพระราชาและพระราชินี นี่คือหลักฐาน
ว่าพระองค์ก็เคยลงนรกมาแล้ว มันก็มีผิดพลาดมาแล้ว
เพราะฉะนั้น การปฏิบัติธรรมของเรา มันจะรุดหน้าทุกคนแหละ ถ้าหากว่าเราท าดีเพิ่มขึ้น ๆ
หลวงพ่อถึงบอกว่าร่างกายมันตายเปล่า แต่ใจไม่ตายไปด้วย ร่างกายจะกลับคืนไปสู่สภาพดินน้ าไฟ
ลมกลับไป แต่ใจที่มีคุณภาพดีจะต้องไปสู่ภพภูมิที่สูงขึ้น เราจะไม่ยอมลงต่ า เราต้องคิดอย่างนี้ ตั้ง
ู่
เปาไว้ในชีวิตนี้จะต้องท าดีให้มาก ตราบใดที่เรายังมีลมหายใจอย เราจะต้องต่อสู้ ทุกคนก็มีกิเลสกัน
้
ทั้งนั้นแหละ ใครทไม่มีกิเลสบ้าง มันก็มีด้วยกันทั้งนั้น เมื่อมีด้วยกันแล้วเราก็ต้องต่อสู้ ใครไม่ขี้เกียจ
ี่
ยกตัวอย่างมาสักคนใครไม่ขี้เกียจ มันก็ขี้เกียจทั้งนั้นแหละ แต่ขี้เกียจเราก็รู้ แล้วจะพ่ายแพ้ไม่ได้ใน
บางครั้ง บางครั้งต้องชนะบ้างสิ
่
เราก็ต่อสู้กันไป พระพุทธเจ้าเป็นแบบอย่างว่าท่านต่อสู้มาอย่างไร ทานสร้างบุญกุศลมา
็
้
อย่างไร ท่านพัฒนาตัวของท่านมาอย่างไร ล้มลุกคลุกคลานกันมาทั้งนั้น เปนคนบ้าใบ เป็นสัตว์
เดรัจฉานก็เยอะแยะ กว่าจะได้มาตรัสรู้ ผ่านปัญหาและอุปสรรคเยอะแยะ เพราะฉะนั้น เราจึง
๑๕๑