Page 155 - ธรรมะบรรยาย1525
P. 155

แฉะแล้วเราไม่ท า จะไปโทษหลวงพ่อได้อย่างไร โทษตัวเองสิ ตัวเองหมายถึงกิเลส กิเลสมาครอบง า


               จิตของเราให้พ่ายแพ้สิ่งที่ท าให้จิตมัวหมองคือกิเลส  สิ่งที่ทาให้จิตมืดมนคือกิเลส  “กิเลส”  แปลว่า
               สิ่งมัวหมองมืดมน มันปกปิด มันครอบง า มันมีอิทธิพลสั่งจิตของเราให้เป็นอย่างนี้ สั่งจิตของเราให้

               อย่างนั้น สั่งจิตของเราให้ท้อแท้ สั่งจิตของเราให้ถดถอย นี่คืออ านาจของมัน หลวงตามหาบัวหรือ

               ว่าองค์ไหนก็ว่าเหมือนกัน ท่านจะพูดอย่างนี้


                                                                              ู
                     เพราะฉะนั้น เราก็ต่อสู้บ้าง ต่อสู้เถอะ เราทาดีเพื่อเป็นพุทธบชาวันนี้ เรียกว่าวันวิสาขาบูชา
               นี่คือตรัสรู้ ทานตรัสรู้อะไร อริยสัจ ๔ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค “ทุกข์” คืออะไร คือการเปลี่ยนแปลง
                           ่
               ถ้ารู้การเปลี่ยนแปลง  “สมุทัย”  คือ  สาเหตุของการเปลี่ยนแปลง  คืออะไร  คือไม่ถาวรไม่คงทน

               “นิโรธ” คือดับ การยึดมั่นถือมั่นว่ามันคงทนถาวร ให้เข้าใจถูก มันมีอะไรคงทน ดับความที่ยึดมั่น

                                  ่
               ถือมั่น  ดับยังไง  รู้วาเปลี่ยนแปลง  “มรรค”  ก็ด าเนินไปต้องเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลง
               พยายามศึกษาท าความเข้าใจอย่างนี้เรื่อย  ๆ  แล้วในที่สุดมันจะเข้าใจจนได้  นี่คือทางด าเนินไป

                 ี
                                                                               ่
               เรยกว่า “ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค” แล้วก็ปฏิบัติด าเนินสายกลาง ทานว่าอย่างนี้ แต่ว่าสายกลาง
               มันไม่เหมือนกัน บางคนกลางแบบเร็วแบบช้าแบบไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน

                     พระพุทธเจ้าก็ไม่ได้บอกว่ากลาง ๆ คือตรงนี้นะ ไม่ได้บอก แต่บอกเพียงว่าอยู่ทฌานที่ ๔ แล้ว
                                                                                             ี่
                    ู้
               เรารหรือยังฌานที่ ๔ อยู่ตรงไหนในจิตของเรา มันอยู่ในต ารา ฌาน ๑ เรายังไม่รู้ พอไม่รู้จะไปถึง
                                   ี่
               ฌาน ๔ ก็เป็นเรื่องทเดาเอานะสิ เราต้องช านาญในการเข้าฌาน  ๑ ให้ได้ก่อน ฌาน ๑ ฌาน ๑
               เหมือนรู้ ก-ฮ รู้หมดทุกตัวแล้วจะเขียนผิดได้อย่างไร ต้องรู้พอรู้แล้วเขียนผิดได้ยังไงก็ต้องเขียนถูก

               ตลอด นี่คือรู้จัก เข้าใจ เพราะฉะนั้น ฌาน ๑ ให้ผ่าน วิตก วิจารณ์ ปีติ สุข เอกัคคตา คืออะไร วิตก

               คืออะไร  ต้องท าความเข้าใจให้ถ่องแท้ก่อน  จิตมีวิตกเป็นยังไง  วิจารณ์เป็นยังไง  ปีติเป็นยังไง  สุข

                                                                                       ี่
               เป็นยังไง  เอกัคคตาเป็นยังไง  ไล่อยู่ตรงนี้ เอาตรงนี้ให้มันชัดเจนเป็นพื้นฐานทมั่นคง ถ้าพื้นฐานไม่
               มั่นคงจะไปเดาเอาสิ ก็เหมือนคนที่ไปยานอวกาศ ไปถึงดาวอังคาร ดาวศุกร์ ดาวพฤหัสหรือว่าดาว

                                                                          ์
               อะไรว่าไป เขามาพูดให้เราฟังว่าดาวอังคาร ดาวพฤหัส ดาวศุกร เราได้แต่ฟัง เราไม่เข้าใจ คนที่ไป
               แล้วสัมผัสเป็นยังไง เพราะฉะนั้น เราพูดสูง ๆ พูดได้ พูดได้ก็โม้ โม้ดีกว่าไม่โม้ แต่จริง ๆ แล้วเป็น

               เรื่องเพ้อฝัน เพ้อเจ้อ แต่เพ้อเจ้อดีกว่าไม่เพ้อเจ้อ ในที่สุดมันก็ต้องกรองอยู่ดี อารมณ์มันต้องกรอง

                     เพราะฉะนั้น จึงมีการทาสมาธิเพื่อมาเป็นเครื่องกรองอารมณ์ กรองก็คือคัดสรรเอาอารมณ์ท    ี่

               ดีเข้าสู่จิต อย่างว่าพุทโธ ๆ นี่คืออารมณ์ดี เมื่อว่าพุทโธ ๆ มากเข้าคือการกรองอารมณ์ที่จะเข้าสู่จิต

                                                                                               ี
               เข้าไม่ได้ไม่มีโอกาสไม่มีช่อง พอไม่มีช่องอารณ์เสียมันจะเข้ามาได้อย่างไร เมื่ออารมณ์เสยเข้าไม่ได้ก็
               มีอารมณ์ดีตลอด เราต้องฝึกอย่างนี้ ฝึกแล้วฝึกอีก ๆ ในที่สุดอารมณ์ดีก็จะเกิดขึ้น หัวเราะได้ สบาย



                                                          ๑๕๕
   150   151   152   153   154   155   156   157   158   159   160