Page 154 - ธรรมะบรรยาย1525
P. 154
อยากจะสวดมนต์ ขอให้มีจิตใจอยากจะท าความดี ขอให้มีจิตใจอยากจะเดินจงกรมร่วมกัน นั่ง
สมาธิร่วมกัน
วันนี้เป็นวันที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน การตรัสรู้ของ
พระพุทธเจ้าก็เพื่อมาโปรดเวไนยสัตว์ ไม่ได้เอาเฉพาะพระองค์ พระองค์เสด็จไปที่ไหนก็เหนื่อย
ื้
ยากล าบากเหมือนกัน แต่ว่าเหนื่อยยากล าบาก แม้เขาจะอยู่ที่ไหน ถ้าเขามีเชอ เชื้อที่จะได้บรรลุ
้
ธรรม พระองค์ก็เสด็จไปโปรด ในต าราไม่ได้บอกว่าพระพุทธเจาต้องเหาะไปทุกครั้ง พระองค์เหาะ
ได้ไหม เหาะได้ แต่ท าไมไม่เหาะ เดินไปธรรมดา เดินไป ๆ มีอิทธิฤทธิ์ทาไมไม่แสดง ก็เอาไว้ใช้เป็น
บางครั้ง ใช้บ่อยก็หมดพลังงานไปเปล่า ๆ พระองค์ก็ใช้เป็นบางครั้งบางคราว พระองค์จึงยกย่อง
“อนุสาสนียปฏิหาริย์” คือ แสดงธรรมให้ถึงจุดของจิตคน จุดบอดอยู่ตรงไหน พระองค์เอามาใช้ตรง
ั
นี้ ใช้พลงจิตมาสอนคนให้มันรู้ ให้มันตื่น ให้มันเบิกบานให้ได้ ใช้พลังจิตเหาะเหินเดินอากาศหมด
พลังก่อนจะท ายังไงละ หมดแรงที่จะไปสอนจิตให้คนสว่างไสวได้ เพราะฉะนั้น พระองค์จึงเดินไป
้
เสด็จเดินเทาไปธรรมดานี่ ไปอ่านดูต ารา พระอาจารย์ก็อ่านมาอย่างนี้ ทุกครั้งพระพุทธเจ้าไม่ใช่
แสดงปาฏิหาริย์ตลอด ยมกปาฏิหาริย์ก็แสดงเป็นบางครั้ง ทง ๆ ที่พระองค์ก็สามารถทาได้ ทีนี้เรา
ั้
ต้องท าความเข้าใจ
เพราะฉะนั้น การที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ ก็เพื่อต้องการอยากจะรื้อสัตว์และขนสัตว์ให้พ้นจาก
การเวยนว่ายตายเกิด เพราะการเกิดบ่อย ๆ เป็นทุกข์ ทุกข์ในที่นี้หมายถึงการเปลี่ยนแปลง เกิดเป็น
ี
มนุษย์เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน เปรต อสุรกาย สัตว์นรก มันเวียนว่ายอย่างนี้ เกิดมาได้สามีหล่อ ได้
ภรรยาสวย ได้เงินได้ชื่อเสียงเกียรติยศแล้วก็พลัดพรากก็เศร้าใจ เสียใจอยู่อย่างนี้ บางคนผูกคอตาย
เพราะว่าไม่สมหวังในสิ่งทปรารถนา พระพุทธเจ้ารู้อย่างนี้แล้ว โอ้ มันเป็นทุกข์เพราะการยึดนี้เอง ก็
ี่
เลยสอนให้คนอย่ายึด รู้จักปล่อยวางเสียบ้าง ท าใจให้ว่าง ๆ บ้าง นี้เป็นค าแนะน าของพระพุทธเจา
้
หรือเป็นค าสอนของพระพุทธเจ้าให้รู้จักปล่อยวาง
ั้
การทาสมาธิจะมากรองอารมณ์ หลวงพ่อของเราเป็นคนพูดว่า อารมณ์นี้ไหลเข้าสู่ใจทงวันทั้ง
คืน มีทั้งอารมณ์บวกอารมณ์ลบ เมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้าเราไม่ท าสมาธิ อารมณ์ลบจะเข้ามาเยอะ พอเยอะ
มันเป็นยังไง มันหงุดหงิด มันเบื่อ มันเซ็ง มันกระวนกระวายใจ มันเครียด นี่คืออารมณ์มันบูด
มาแล้ว มันสะสมเข้ามามากเข้าไป ๆ มันก็เกิดอารมณ์บูด หน้าหงิกหน้างอ หน้าหมั่นไส้ก็ว่าไป มัน
่
เกิดจากอะไร มันเกิดจากอารมณ์บูดที่เราสะสมเข้าไป เราเก็บมันมากเทาไหร่ก็เกิดบูดเท่านั้น เกิด
เน่าเท่านั้น มันเสียหายเทานั้น แล้วเก็บไว้อีกก็บูดอีกสิ เราก็เปลี่ยนอารมณ์มาพุทโธบ้างสิ พุทโธ ๆ
่
่
ุ
หลวงพ่อก็บอกว่าพทโธมาก ๆ “ภาวิโต พหุลีกะโต” ท่านวาอย่างนี้ ท่านก็สอน สอนจนปากฉีกปาก
๑๕๔