Page 174 - ธรรมะบรรยาย1525
P. 174

ุ
                     เมื่อเราทั้งหลายร่วมกันสวดนี่มันเป็นจิตที่บริสทธิ์   ต่างคนก็ต่างอยากจะให้โรคภัยไข้เจ็บท ี่
                                     ั่
               ระบาดอยู่ทั่วไทยหรือทวโลกนี้ให้จางหายไป  แค่เราคิดมันก็เกิดกระแสจิตแล้ว  เมื่อเราสวดมนต์
               แน่นอนมันต้องเกิดสมาธิ สวดไปเรื่อย ๆ มากเข้า ๆ มันก็เกิดพลังจิต เมื่อเกิดพลังจิตมากเข้า ๆ มัน

                                                                                                 ุ
               ก็เกิดกระแสจิตแผ่กระจายไปทั่วโลก  นั่นคือพลังจิตที่เราได้สะสม  และก็เป็นพลังอันบริสทธิ์  เป็น
               พลังบวกด้วย มีแต่ความปรารถนาดีล้วน ๆ อยากจะให้ทุกคนมีความสุขโดยทั่วกัน

                     เพราะฉะนั้น การสวดมนต์นี้เป็นการท าเครื่องมือให้ใจของเราสะอาดให้หมดจด เพื่อที่จะเกิด

               พลังบวก  พลังแห่งความดีที่เราสรางนี้มันก็จะกระจายไปได้ทั่วโลก  อันดับแรกมันก็คือตัวของเรานี่
                                               ้

               แหละ  คือ  ท าตัวของเราให้สะอาดให้บริสุทธิ์ให้หมดจด  มันก็เลยทาให้สุขภาพของเราดี  สวดมนต์
               บ่อย ๆ นี่แน่นอน ปอดของเราก็จะดี ท าไมจึงว่าปอดดี เวลาเราสวดมนต์เราก็เปล่งเสียงออกมา พอ

               เปล่งเสียงออกมาแล้วเราก็กลั้นลมหายใจ เมื่อคิดว่าทนไม่ไหวแล้วก็หายใจเข้า แล้วก็สวดใหม่ สวด

                                                                                    ์
               ไปสวดมาอย่างนี้มันก็บริหาปอดอย่างดีเลย  แล้วก็สูดออกซิเจนเข้าไป  คารบอนไดออกไซด์ออกมา
               มันก็จะเป็นลักษณะนี้ ทีนี้เวลาเราสวดมากเข้า ๆ ดั่งที่เคยกล่าวแล้วว่า ดร.มาซารุ อิโมโต เขาวิจัย

               เรื่องน้ า น้ าในร่างกายของเรานี่มีประมาณ ๗๐ % แน่นอนอยู่แล้วว่าน้ าในร่างกายของเรานี้ย่อมเกิด

               เรียงตัวหนาแน่นขึ้น จากน้ าที่ไม่ดีก็จะกลายเป็นน้ าดี เป็นน้ าที่ต่อต้านอนุมูลอิสระ เขาว่ามาแบบนี้

                                                                                      ั
                                                                        ั
               เพราะฉะนั้น  จึงเป็นนิมิตหมายที่ดีว่าการสวดมนต์นี้สร้างก าลงใจหรือว่าก าลงจิต  เมื่อสวดมนต์ได้
                      ่
               มากเทาไหร่ ก าลังใจก็เพิ่มขึ้นเท่านั้น ยิ่งสร้างกันเยอะ ๆ คือหมายความว่าเรามาร่วมกันสวดเยอะ ๆ
               สวดกันมาก ๆ มันจะเกิดพลังอันยิ่งใหญ่ขนาดไหน แล้วความร่มเย็นเป็นสุขก็จะเกิดขึ้น

                                                                                              ์
                     ทีนี้เรื่องส าคัญวันนี้ก็อยากจะบอกว่าทางวัดเทพเจติยาจารย์    โดยพระสงฆวัดเทพมีการ
               ประชุมตกลงกันว่าจะมีการสวดหมุนเวียนกันไป  วันนี้เป็นวันที่พระอาจารย์จะสวดมนต์  “เหมือน

               บนดอย”  หมายความว่าท าวัตรเย็นนั่นเอง  แต่ใช้ชื่อว่าสวดมนต์เหมือนบนดอย  อยากจะให้นึกถึง

                                                             ์
               บรรยากาศเก่า ๆ ทเคยไปเดินธุดงค์ดอยอินทนนท ถ้าหากว่าคนใดเคยไปเดินธุดงค์กับหลวงพ่อ จะ
                                  ี่
               เห็นว่าการสวดมนต์บนดอยนี่ โอโฮ บรรยากาศมันดีมาก ๆ เลย เวลาบรรยากาศมันครึ้ม ๆ

                     มันติดขัดทางเทคนิคนิดหน่อย ก็ขออภัยด้วย เสียงมันติด ๆ ขาด ๆ หาย ๆ เป็นอันว่าจะมีการ


               แก้ไขปรับปรุงให้มันดียิ่งขึ้น เมื่อเราตั้งใจจะท าความดี เราพยายามทาในสิ่งที่ดี เครื่องมือไม่ดีก็มีคน
               สนับสนุน คือคุณชัยยศ พิชิตโชติ เขาก็ได้ถวายเงินมา ๘๐,๐๐๐ บาท ปรับปรุงเครื่องเสียงต่าง ๆ ให้

               มันดียิ่งขึ้น  และก็คณะสมาธิสัญจรออนไลน์  ร่วมกันท าบุญเป็นค่าน้ าค่าไฟกับวัดเทพเจติยาจารย์

                                                                                                    ่
               เป็นจ านวนมาก  สี่ห้าหกหมื่นบาท  ขออนุโมทนาบุญกับทุก  ๆ  ท่าน  ขอให้ทุกท่านมีหูตาสวางไสว





                                                          ๑๗๔
   169   170   171   172   173   174   175   176   177   178   179