Page 176 - ธรรมะบรรยาย1525
P. 176

วันนี้ก็อยากจะพูดถึงเรื่องเจ้าหญิงโรหิณี ซึ่งเป็นพระขนิษฐาของพระอนุรุทธะ พระอนุรุทธะนี่

                                                                                ิ
               เมื่อบวชมาแล้วก็มีคุณธรรมพิเศษหรือว่ามีคุณวิเศษอย่างหนึ่งคือมีตาทพย์  พระอนุรุทธะในขณะที่
               พระพุทธเจ้าจะเสด็จดับขันธปรินิพพาน  ท่านสามารถก าหนดดูจิตของพระพุทธเจ้าได้ว่าขณะนี้เข้า

               ขั้นปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌาน จตุตฌาน อากาสานัญจายตนะฌาน วิญญานัญจายตนะฌาน อา

                                                                                    ี่
               กิญจัญญายตนะฌาน เนวสัญญานาสัญญายตนะฌาน แล้วก็ไล่ลงมาฌานท ๘ ฌานที่ ๗ ฌานที่ ๖
                                                 ี่
                                                          ี่
               ฌานที่ ๕ ฌานที่ ๔ ฌานท ๓ ฌานท ๒ ฌานท ๑ แล้วก็ฌานที่ ๑ ฌานที่ ๒ ฌานที่ ๓ แล้วก็ฌานท         ี่
                                        ี่
               ๔ แล้วพระพุทธเจ้าก็เสด็จดับขันธ์ลงที่ฌานที่ ๔ นี่ ระหว่างกึ่งกลางระหว่างฌานที่ ๔ กับฌานที่ ๕
               อันนี้พระอนิรุทธะท่านมีตาทิพย์ รู้ก าหนดจิตของพระพุทธเจ้า

                     เพราะฉะนั้น น้องของท่านนั้นชื่อพระนางโรหิณี แต่เกิดมาก็มีโรคผิวหนังเต็มทั้งกาย เป็นโรค

               คัน เป็นตุ่มพุพอง เกาไปเรื่อย ทาให้ท่านต้องล าบาก พระอนุรุทธะเมื่อมาเยี่ยมที่กรุงศากยะ จึงให้

               พระขนิษฐาเจ้าหญิงโรหิณสร้างโรงฉัน  น้องสาวของท่านก็มาสร้างโรงฉัน  พอสร้างเสร็จก็ปัดกวาด
                                       ี
                                       ื่
               เช็ดถูท าความสะอาดอยู่เรอย ๆ วันหนึ่งก็ไปกราบนิมนต์พระพุทธเจ้ามาฉันที่โรงฉัน พระพุทธเจ้าก็
               ตรัสว่า ใครเป็นคนถวาย เจ้าภาพอยู่ที่ไหน ก็เลยทราบว่าเป็นเจ้าหญิงโรหิณี อ้าว แล้วท าไมไม่เรียก

               พระนางมาล่ะ พระนางอายทเป็นโรคคันมันจะเป็นผื่นเต็มตัวเลย พระพุทธเจ้าก็บอกว่าเรยกนางมา
                                          ี่
                                                                                                 ี
               เถิด  เมื่อพระนางมาแล้วพระพุทธเจ้าก็ตรัสว่าเธอมีกรรมเก่า  ในอดีตชาตินี่เธอเคยอิจฉาคนอื่นเขา

               โกรธคนอื่นเขา เอาต าแยโรย เห็นนางฟ้อนร า ร าสวยกว่า ก็แกล้งเขา เอาต าแยไปโรย ๆ ไม่ใช่ตัวเอง

               โรยนะ ให้คนอื่นไปโรย เมื่อคนอื่นไปโรยนี่ไปโดนมันก็คัน นางฟ้อนร าโดนก็คัน ๆ ร าผิดท่าเลย ไม่ใช่

               คนเดียวหลายคน  พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่าเธออิจฉาเขา  โกรธเขาทร าสวยกว่า  โรคอันนี้จึงท าให้เกิด
                                                                           ี่
               กับเธอ เป็นโรคผื่นคันเติมตัวเลย ทาให้ไม่กล้ามาคบค้าสมาคมกับใคร ๆ ไม่เป็นไรเธอเมื่อสร้างศาลา

               และท าบุญในวันนี้ เราจะแสดงธรรมให้ฟัง

                     พระพุทธเจ้าตรัสอย่างนี้ ในที่สุดเมื่อพระพุทธเจ้าเสวยภัตตาหารเสร็จแล้ว ก็ได้อนุโมทนาคือ

               แสดงธรรม นางมีความเบกบานใจ ชื่นชมเบิกบาน เมื่อพระพุทธเจ้าแสดงธรรมจบ ปรากฏว่านาง
                                       ิ
               บรรลุเป็นพระโสดาบัน  โรคภัยที่อยู่ในร่างกายหายสนิทเลย ไม่รู้ว่าหายไปได้อย่างไร  นี่เขาเรียกว่า

               พุทธานุภาพและบุญญานุภาพ ที่พระนางได้สร้างศาลาและไปท าความสะอาดห้องน้ า ห้องสุขา หรือ

                                                                                            ั้
                                                                                      ี่
               ปัดกวาดเช็ดถูศาลา  โรคภัยดังกล่าวก็อันตรธานหายไป  เพราะฉะนั้น  การทท่านทงหลายได้ไปวัด
                                                                                              ่
               เทพเจติยาจารย์หรือไปวัดไหน ๆ ก็ไปกวาดลานวัดบ้าง ท าความสะอาดห้องน้ า หรือวากวาดเช็ดถู
               ท าอะไรที่คิดว่าเป็นสิ่งดี มันก็มีอานิสงส์เหมือนกันนะ ท าโรคภัยไข้เจ็บหายได้






                                                          ๑๗๖
   171   172   173   174   175   176   177   178   179   180   181