Page 307 - ธรรมะบรรยาย1525
P. 307
่
เท่านั้น เทานี้ ไอ้ใจคนด่างนี้หนามันราคาเท่าไหร่ ใจคนด่างมันจะท าให้เกิดอาการโมโห เมื่อเกิด
อาการโมโหมันก็ด่าคนได้ ด่าแฟ่ง ๆ นี่ใจด่าง ถ้าใจด่างแล้วอยู่กับใครก็ไม่ได้ มันจะด่าคนนั้น ด่าคน
ั
นี้ ใส่ร้ายคนโน้น ใส่ร้ายคนนี้ ดูถูกคนนั้น อิจฉาคนนี้ นี่คือใจมันด่าง แต่ถ้าใจด าล่ะ ใจด ายงไม่ถึงด า
ี
มาก แค่เป็นสีเทา ๆ อันนี้ก็ตบต่อยกันได้ ตีกันได้ ถ้าสเทามากเข้ามันก็จะตบต่อยได้ แตะกัน ตีกัน
ทะเลาะกัน โอ ขึ้นเสียงดังมาก ๆ เลย ถ้าด าล่ะทีนี้ โอ เที่ยวนี้อันตราย ฆ่าสามีก็ได้ ฆ่าภรรยาก็ได้
ฆ่าลูกก็ได้ ฆ่าพ่อก็ได้ ฆ่าแม่ก็ได้ ในที่สุดก็ฆ่าตัวเอง นี่เรียกว่าใจด า
แต่การท าสมาธิของเรานี่ จะช่วยก าจัดใจด า ใจเทา ใจด่างให้มาเป็นใจใส พระพุทธเจ้าตรัสว่า
ใจใสเป็นบุญ ใจขุ่นเป็นบาป เราก็ต้องพยายามสวดมนต์ให้มาก เพราะใจของเรานั้นมันไปเอา
่
อารมณ์อื่นเข้ามา พระองค์ทรงตรัสวาใจคนเรานั้นมันสะอาดอยู่แล้ว เริ่มต้นมันสะอาด แต่ว่าที่มัน
เริ่มสกปรก เพราะว่าตาก็เห็น หูก็ได้ยิน จมูกก็ได้กลิ่น ลิ้นก็ได้ลิ่มรส กายก็ได้สัมผัส ใจก็คิดปรุงแต่ง
มันก็เลยไปเอาอารมณ์ต่าง ๆ เข้ามาสู่ใจทั้งบวก ทั้งลบ ทั้งบวก ทั้งลบ ในที่สุดใจใสก็เลยกลายเป็น
ใจด่างก็เหมือนกล้วยด่างอย่างนี้ ใจมันด่างแล้วก็คือด่ากันได้แล้ว แต่ถ้ามันใสมันด่าไม่ได้ มันดี
่
เพราะฉะนั้น อย่าท าใจของเราให้ด่าง ถ้าหากวาด่างแล้วยังไม่แก้ไข มันจะเป็นใจสีเทา ถ้าใจสี
เทา โอ้ ด่ากันได้ ตีกันได้ ตบกันได้ ต่อยกันได้ อันนี้เริ่มสีเทาแล้ว แต่ถ้าด า เที่ยวนี้ยุ่งแล้ว ฆ่าคนอื่น
ก็ได้ อันนี้คือใจด ามองไม่เห็นคุณงามความดีของเพื่อน มองไม่เห็นคุณงามความดีของสามี ของ
ภรรยา ของลูก ของพ่อ ของแม่ แม้แต่ตัวเองก็มองไม่เห็น นี่คือใจด า เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายอย่า
ปล่อยให้เราของเรามันด าเลย อย่าปล่อยให้ใจของเราสีเทาเลย อย่าปล่อยใจของเราให้ด่างพร้อย
้
เลย ก็ท าใจให้มันใส เอา ใจใสเป็นยังไง ใจขุ่นเรายังรู้ หงุดหงิดเรายังรู้ เบื่อเรายังรู้ เซ็งเรายังรู้ แล้ว
ใจใสเราจะไม่รู้ได้อย่างไร เวลาเราขุ่นเราหงุดหงิด เราเบื่อ เรากังวล เราเครียดอย่างนี้นั่นล่ะ มันเริ่ม
ด่างแล้ว ต้องคิดว่ามันต้องแก้ไข แก้ไขยังไง ก็สวดมนต์มาก ๆ นี่แหละ มันจ าท าให้ใจด่างกลายเป็น
ใจใส
่
เพราะฉะนั้น ทานทั้งหลายเชิญมาสวดมนต์กับวัดเทพเจติยาจารย์เทอญ พระสงฆ์ทั้งหลายก็
่
พร้อมที่จะน าทานสวดมนต์อยู่แล้ว การสวดมนต์นี้จะล้างใจของท่าน จากใจด่าง ใจเทา ใจด ากลาย
ใสเป็นใจใสขึ้น ๆ เมื่อใจใสแล้ว เมตตาก็เกิดขึ้น ความกรุณาเกิดขึ้น อุเบกขาคือรู้เทาทันจิตก็เกิดขึ้น
่
ไม่พยายามทาจิตของตัวเองให้มันด่าง ไม่พยายามท าจิตของตังเองเป็นสีเทา ไม่พยายามท าจิตของ
ตัวเองให้ด า นี่เรยกว่าสร้างก าลังใจให้ใสอยู่บ่อย ๆ จิตใสจึงเป็นบุญ จิตขุ่นจึงเปนบาป เพราะฉะนั้น
็
ี
มาสวดมนต์กัน มีคนหนึ่งบอกว่าฉันสวดมนต์กับคณะสงฆ์วัดเทพเจติยาจารย์ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม
โอ้ เกิดก าลังจิต เกิดกระแสจิตอย่างมาก ทีนี้เมื่อฉันเกิดอุบัติเหตุ โอ้ มันท าให้ฉันเหมือนกับตายมัน
๓๐๗