Page 118 - ธรรมะบรรยาย2564
P. 118

อานนท์ก็ถือเฟชบุ๊กไป พระพุทธเจ้าก็มีเฟซบุ๊ก ก็ส่งกันไปส่งกันมา ก็เห็นกันทั้งหมด พระพุทธเจ้าส่ง

               กระแสจิตไปลักษณะนี้ เพราะฉะนั้น คนที่มีโทรศัพท์มือถืออยู่ที่ไหนในโลกนี้ อย่างเช่นอินโดนีเซีย

               เขาก็เข้ามาสวดด้วย  ฝรั่งเศสคนหนึ่งก็เข้ามาสวดด้วย  ประเทศญี่ปุ่นก็เข้ามาสวดด้วย  ประเทศ

               สหรัฐอเมริกาก็เข้ามาสวดด้วย มันอยู่คนละทวีปก็สามารถติดต่อกันได้ เช่นเดียวกันกับพระพุทธเจ้า

                                                              ั
               พระองค์ทรงให้อย่างไร  ทรงให้พระอานนท์เรียนรตนปริตรก่อน  นั่นคือสื่อก่อน  เมื่อเรียนแล้ว
               พระพุทธเจ้าก็รู้  พระอานนท์ก็รู้และพระสงฆ์ทั้งหลายก็รู้อีก  ก็เลยรวมพลังนอกจากพระสงฆ์ที่เป็น

               พระอริยบุคคลแล้ว มีพุทธานุภาพอันยิ่งใหญ่แล้ว ท้าวจตุโลกบาลทั้ง ๔ ท้าวสักกะเทวราชก็เสด็จลง

               มาอีก  มารวมพลังอันยิ่งใหญ่ขนาดนี้แล้ว  โรคภัยไข้เจ็บมันจะไม่หายได้อย่างไร  เพราะว่าอมนุษย์

               ทั้งหลายย่อมอยู่ไม่ได้ เมื่ออมนุษย์ทั้งหลายออกไปคนทั้งหลายก็จะรู้ว่า โลกมันโปร่งสว่างแล้วนี่ จะ

               เป็นลักษณะนี้ เมื่อท่านทั้งหลายได้สวดแล้ว การสวดนี้อันดับแรกต้องตั้งจิตให้มีเมตตา ดังที่ในการ

               สวดพระปริตรจะมีบอกไว้

                                                                                      ้
                     พระพุทธองค์ทรงแนะนำให้พุทธบริษัทสวดพระปริตร  เพื่อคุ้มครองปองกันภัยอันตรายจาก
               โจรผู้ร้ายอมนุษย์  ภูตผีปีศาจ  และสัตว์เดรัจฉาน  ตลอดถึงโรคภัยทั้งปวง  ในอาฏานาฏิยะปริตร

               พระองค์ตรัสว่า  “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย  พวกเธอจงเรียนมนต์คืออาฏานาฏิยะปริตร  เพื่อคุ้มครอง

               ป้องกันรักษาอาการไม่เบียดเบียนของเหล่าอมนุษย์  เพื่อความอยู่เย็นเป็นสุขของภิกษุ  ภิกษุณี

               อุบาสก อุบาสิกา นี้เป็นธรรมะอย่างหนึ่งในบรรดาธรรมทั้งหลายที่มุ่งไปสู่การหลุดพ้น” ภาษาบาลี

               เรียกว่า “ปริตฺร” หรือเรียกในภาษาไทยว่า “พระปริตร” แปลว่า เครื่องป้องกันรักษา หมายความ

               ว่า เมื่อภัยอันตรายอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้นแล้ว พระปริตรนี้สามารถช่วยปัดเป่าภัยอันตรายนั้น ๆ

               ให้ระงับหายไป

                     เมื่อภัยอันตรายอย่างใดอย่างหนึ่งยังไม่เกิดขึ้น  ก็ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น  แต่ในกรณีนี้ผู้สวด

               ต้องสวดให้ถูกต้องตามอักขระ จึงจะสำเร็จประโยชน์ เพราะฉะนั้นองค์ ๓ ของผู้สวด ก็คือ ๑) รู้

               ความหมายของบทสวด และสวดให้ถูกต้อง  ๒)  สวดให้ครบบริบูรณ์ ไม่ทำบทพยัญชนะให้ขาดตก

               บกพร่องคือ ต้องสวดให้เต็มสูตร ไม่ครึ่ง ๆ กลาง ๆ ๓) ตั้งใจสวดด้วยจิตเมตตา ปรารถนาให้เกิด

               ประโยชน์แก่ผู้ฟัง

                     ทีนี้องค์ ๓ ของผู้ฟัง ก็คือ ข้อ ๑ ไม่เคยทำบาปกรรมหนัก คือ อนันตริยกรรม ๕ คือ ๑) ฆ่า

               บิดา ๒) ฆ่ามารดา ๓) ฆ่าพระอรหันต์ ๔) ทำร้ายพระพุทธเจ้าตั้งแต่พระโลหิตห้อ ๕) ยุยงพระสงฆ์

                                                                                                  ู่
               ให้แตกความสามัคคีกัน อันนี้เรียกว่าอนันตริยกรรม ๕ คือกรรมที่หนัก ไม่มีอะไรมาเป็นอยระหว่าง
               กลาง คือลงนรกไปเลย จะต้องได้รับโทษ คือความทุกข์ใจอย่างยิ่งถ้าใครทำอนันตริยกรรม ๕ อย่าง



                                                          ๑๑๘
   113   114   115   116   117   118   119   120   121   122   123