Page 174 - ธรรมะบรรยาย2564
P. 174

เมื่อเราทั้งหลายร่วมกันสวดนี่มันเป็นจิตที่บริสุทธิ์   ต่างคนก็ต่างอยากจะให้โรคภัยไข้เจ็บที่

               ระบาดอยู่ทั่วไทยหรือทั่วโลกนี้ให้จางหายไป  แค่เราคิดมันก็เกิดกระแสจิตแล้ว  เมื่อเราสวดมนต์

               แน่นอนมันต้องเกิดสมาธิ สวดไปเรื่อย ๆ มากเข้า ๆ มันก็เกิดพลังจิต เมื่อเกิดพลังจิตมากเข้า ๆ มัน

               ก็เกิดกระแสจิตแผ่กระจายไปทั่วโลก  นั่นคือพลังจิตที่เราได้สะสม  และก็เป็นพลังอันบริสุทธิ์  เป็น

               พลังบวกด้วย มีแต่ความปรารถนาดีล้วน ๆ อยากจะให้ทุกคนมีความสุขโดยทั่วกัน

                     เพราะฉะนั้น การสวดมนต์นี้เป็นการทำเครื่องมือให้ใจของเราสะอาดให้หมดจด เพื่อที่จะเกิด

               พลังบวก  พลังแห่งความดีที่เราสร้างนี้มันก็จะกระจายไปได้ทั่วโลก  อันดับแรกมันก็คือตัวของเรานี่

               แหละ  คือ  ทำตัวของเราให้สะอาดให้บริสุทธิ์ให้หมดจด  มันก็เลยทำให้สุขภาพของเราดี  สวดมนต์

               บ่อย ๆ นี่แน่นอน ปอดของเราก็จะดี ทำไมจึงว่าปอดดี เวลาเราสวดมนต์เราก็เปล่งเสียงออกมา พอ

               เปล่งเสียงออกมาแล้วเราก็กลั้นลมหายใจ เมื่อคิดว่าทนไม่ไหวแล้วก็หายใจเข้า แล้วก็สวดใหม่ สวด

                                                                                    ์
               ไปสวดมาอย่างนี้มันก็บริหาปอดอย่างดีเลย  แล้วก็สูดออกซิเจนเข้าไป  คารบอนไดออกไซด์ออกมา
               มันก็จะเป็นลักษณะนี้ ทีนี้เวลาเราสวดมากเข้า ๆ ดั่งที่เคยกล่าวแล้วว่า ดร.มาซารุ อิโมโต เขาวิจัย

               เรื่องน้ำ น้ำในร่างกายของเรานี่มีประมาณ ๗๐ % แน่นอนอยู่แล้วว่าน้ำในร่างกายของเรานี้ย่อมเกิด

               เรียงตัวหนาแน่นขึ้น จากน้ำที่ไม่ดีก็จะกลายเป็นน้ำดี เป็นน้ำที่ต่อต้านอนุมูลอิสระ เขาว่ามาแบบนี้

                                                                        ั
               เพราะฉะนั้น  จึงเป็นนิมิตหมายที่ดีว่าการสวดมนต์นี้สร้างกำลงใจหรือว่ากำลงจิต  เมื่อสวดมนต์ได้
                                                                                      ั
               มากเท่าไหร่ กำลังใจก็เพิ่มขึ้นเท่านั้น ยิ่งสร้างกันเยอะ ๆ คือหมายความว่าเรามาร่วมกันสวดเยอะ ๆ

               สวดกันมาก ๆ มันจะเกิดพลังอันยิ่งใหญ่ขนาดไหน แล้วความร่มเย็นเป็นสุขก็จะเกิดขึ้น

                     ทีนี้เรื่องสำคัญวันนี้ก็อยากจะบอกว่าทางวัดเทพเจติยาจารย์     โดยพระสงฆวัดเทพมีการ
                                                                                              ์
               ประชุมตกลงกันว่าจะมีการสวดหมุนเวียนกันไป  วันนี้เป็นวันที่พระอาจารย์จะสวดมนต์  “เหมือน

               บนดอย”  หมายความว่าทำวัตรเย็นนั่นเอง  แต่ใช้ชื่อว่าสวดมนต์เหมือนบนดอย  อยากจะให้นึกถึง

               บรรยากาศเก่า ๆ ที่เคยไปเดินธุดงค์ดอยอินทนนท์ ถ้าหากว่าคนใดเคยไปเดินธุดงค์กับหลวงพ่อ จะ

               เห็นว่าการสวดมนต์บนดอยนี่ โอโฮ บรรยากาศมันดีมาก ๆ เลย เวลาบรรยากาศมันครึ้ม ๆ

                     มันติดขัดทางเทคนิคนิดหน่อย ก็ขออภัยด้วย เสียงมันติด ๆ ขาด ๆ หาย ๆ เป็นอันว่าจะมีการ

               แก้ไขปรับปรุงให้มันดียิ่งขึ้น เมื่อเราตั้งใจจะทำความดี เราพยายามทำในสิ่งที่ดี เครื่องมือไม่ดีก็มีคน

               สนับสนุน คือคุณชัยยศ พิชิตโชติ เขาก็ได้ถวายเงินมา ๘๐,๐๐๐ บาท ปรับปรุงเครื่องเสียงต่าง ๆ ให้

               มันดียิ่งขึ้น  และก็คณะสมาธิสัญจรออนไลน์  ร่วมกันทำบุญเป็นค่าน้ำค่าไฟกับวัดเทพเจติยาจารย์

               เป็นจำนวนมาก  สี่ห้าหกหมื่นบาท  ขออนุโมทนาบุญกับทุก  ๆ  ท่าน  ขอให้ทุกท่านมีหูตาสว่างไสว






                                                          ๑๗๔
   169   170   171   172   173   174   175   176   177   178   179