Page 178 - ธรรมะบรรยาย2564
P. 178
หน่อย เพื่อจะยกพื้นไม่ให้งูไม่ให้สัตว์เลื้อยคลานเข้าไปในกลดได้ เมื่อท่านทำเสร็จเรียบร้อยก็นั่ง
สมาธิ ตอนกลางวันไม่เป็นไร พอตอนเย็น ๆ นี่มีเสียงเสือมาแล้ว งาว โฮะ ท่านบอกว่าขนหัวลุกหมด
ื
ทั้งตัว ขนหมดทั้งตัวนี่ขนลุกซู่ขึ้นมาเลย เอาละเจอเสอจริง ๆ แน่เลย ท่านก็นั่งสมาธิ พอนั่งสมาธิต่อ
่
ก็ได้ยินเสียงอีก งาว โฮะ โอย ขนลุกซู่ ๆ ท่านวายังงี้ ทีนี้พอครั้งที่ ๓ นี่ ท่านก็กำหนดจิตได้แล้ว เสียง
เสือมันร้องแต่ท่านไม่ได้ยินแล้วคราวนี้ ท่านนั่งสมาธิ พอเข้าสมาธิลึกดับจิตเลยละทีนี้ ไม่รู้วันรู้คืน
เลย นั่งไป ๓ วัน ๓ วัน
หลวงปู่มั่นท่านเอาจิตไปดูหลวงพ่อ ว่าหลวงพ่อเรานี่กลัวเสือหรือเปล่า หรือว่าหนีเตลิดเปิด
เปิงไปทางไหนแล้วก็ไม่รู้ ที่ไหนได้ หลวงพ่อของเรานี่นั่งสมาธิ ๓ วัน ๓ คืนไม่ออกจากสมาธิเลย
ท่านก็เลยคิดว่าหลวงพ่อของเรานี่เลยมากไป พอวันที่ ๔ ท่านก็ไปเรียกกลับ ให้คนไปตามกลับ เมื่อ
ตามกลับมาแล้วหลวงปู่มั่นก็บอกว่า นี่แหละตอนที่แกอยู่กับเรานี่ แกก็นั่งสมาธิเข้าไปอยู่ในฌานลึก
อยากให้แกไปเจอกับเสือ มันจะได้มีสติอยู่ตลอดเวลา ถ้าแกเผลอเมื่อไหร่ เสือก็จะมางาบเอาท่านว่า
อย่างงี้ แกนั่งสมาธิได้ดีและยอดเยี่ยมมาก แกต้องจำไว้ ทำสมาธินี่เวลาจิตมันสงบแล้วมันต้องถอย
ออกมา เพื่อจะพิจารณาถึงร่างกายเรา ถ้าหากว่าเราไปอยู่ในฌานลึกยังงั้น มันก็จะเหมือนนอนหลับ
มันจะได้ประโยชน์อะไร เรานอนหลับก็แค่พักผ่อนเท่านั้นเอง แกต้องถอนจิตออกมาอยู่ที่รูปฌานให้
ได้ อยู่ที่ฌาน ๑ ฌาน ๒ ฌาน ๓ ฌาน ๔ แกจะรู้ว่าเวทนามันเกิดขึ้นมาจะได้รู้ มิฉะนั้นเวทนาเกิด
ขึ้นมาแกก็จะไม่รู้ ไม่รู้ก็จะพิจารณาไม่ได้ หลวงพ่อก็ว่า ครับผม ๆ เป็นพระคุณอย่างยิ่งเลย ตั้งแต่บัด
ิ
นั้นเป็นต้นมาหลวงพ่อของเราก็เลยปฏิบัติธรรม เดินจงกรม นั่งสมาธ เมื่อมีปัญหาอะไรก็ไต่ถาม
หลวงปู่มั่น ก็เป็นอย่างนี้ตลอดมา เพราะฉะนั้น คงจะพอแล้วเท่านี้สำหรับวันนี้ เอาละขอให้ท่าน
ทั้งหลายรับพรต่อไป
\
๑๗๘