Page 182 - ธรรมะบรรยาย2564
P. 182

๐๗๓                                              ธรรมะบรรยาย

                                                                   ท่านเจ้าคุณ พระราชปัญญาวชิโรดม
                ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔




                     ขออนุโมทนากับทุกท่าน  ที่ได้เข้าร่วมสวดพระอภิธรรมกับคณะสงฆ์วัดเทพเจติยาจารย์ทาง

                                                                       ุ
               ออนไลน์ วันนี้มีผู้เข้าร่วมสวดทั้งสิ้น ๑,๓๗๖ ท่าน สาธุ สาธ สาธุ อนุโมทามิ ท่านได้สร้างความดี
               ให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว  ดังที่ได้สวดไปแล้วว่าในโลกของท่านเหล่านั้น  ไม่มีเกษตรกรรม  ไม่มีสิ่ง

               ค้าขายด้วยเงินทองใด  ๆ  ทั้งสิ้น  ท่านเหล่านั้นจะต้องรับบุญกุศลจากญาติพี่น้องที่ส่งไปให้  อย่างที่

               พวกเราสวดนี่เรียกว่า “ธรรมทาน” ธรรมทานคือให้ธรรมะเป็นทาน เมื่อเราสวดมนต์ไปนี้มันก็เป็น

               บุญ บุญก็คือความสุขใจ ความเบิกบานใจ ความอิ่มเอิบใจ ทีนี้เมื่อเราปรารถนาขอให้บุญกุศลที่เรา

               ได้สวดมนต์นี้ ได้นั่งสมาธินี้ จงให้ถึงแก่ญาติพี่น้องที่ล่วงลับ ขอให้ญาติพี่น้องที่ล่วงลับจงอนุโมทนา

               บุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้ให้แล้วเถิด อันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่ง ที่นี้เราก็นึกถึงบุญกุศลใด ๆ เช่น ทานมัย บุญ

               เกิดขึ้นเพราะการให้ทาน เช่น ให้วัตถุทาน ธรรมทาน และอภัยทาน เวลาผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว บางคน

               ไม่ได้ขอโทษขอมากัน  ก็ไปขอขมาต่อโลงศพหรือว่าต่อสรีระที่อยู่ในโลงศพว่า  กรรมใดที่ได้พลาด

               พลั้งต่อกันและกัน ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ก็ไปขอขมาโทษกัน อันนี้เรียกว่า “อภัยทาน” ธรรมทาน

                                                                      ุ
               ก็มาสวดมนต์ญาติพี่น้องก็มาสวดมนต์ แล้วก็ทำบุญให้ทานอทิศไปให้ เมื่อเราทำอย่างนี้ แม้ว่าญาติ
               พี่น้องจะไม่ได้รับผลทาน  ผู้ที่ทำบุญจริง  ๆ  คือพวกเรานี่ก็ย่อมไม่ไร้ผลทาน  ย่อมได้รับอานิสงส์

               เหมือนกัน

                     เพราะฉะนั้น  การสวดพระอภิธรรมนี้ถือว่าเป็นการระลึกถึงคุณงามความดีของญาติพี่น้องที่

               ล่วงลับไป ท่านเหล่านั้นจึงบอกว่าบางครั้งเราก็ระลึกได้ บางครั้งก็ระลึกไม่ได้ เพราะกรรมเป็นปัจจัย

               ปิดบังเอาไว้ “สัตตานัง กัมมะปัจจะยา” เพราะกรรมของสัตว์ทั้งหลายเป็นปัจจัยปิดบังไว้ “นะเตสัง

               โกจิสะระติ”  ญาติบางคนของเปรตเหล่านั้นก็ย่อมระลึกไม่ได้  เพราะว่าเป็นปัจจัยปิดบังเอาไว้

               “ปัจจัย”  ในที่นี้หมายความว่าความสนุกสนานเพลิดเพลิน  เรามีความสุขก็เลยลืมญาติพี่น้องที่

               ล่วงลับไป  เพราะว่าคิดว่าเขาตายไปแล้วก็ตายไปเราก็ไม่ได้สนใจ  คงไปอยู่คนละโลกแล้ว  ก็เลยไม่

               ต้องทำบุญให้ทาน ทั้งที่เขาต้องการบุญ แต่บางคนก็ลืมไปแล้ว บางคนพ่อตายเดือนนั้นเดือนนี้ วัน

               นั้นวันนี้ พ.ศ. นั้น พ.ศ. นี้ ระลึกได้ โอ้ ครบวันตายของพ่อ ครบวันตายของแม่ ครบวันตายของสามี






                                                          ๑๘๒
   177   178   179   180   181   182   183   184   185   186   187