Page 183 - ธรรมะบรรยาย2564
P. 183
ของภรรยาหรือว่าครบวันตายของลูก ก็เลยทำบุญอุทิศไปให้ บางคนก็ระลึกได้ บางคนก็ระลึกไม่ได้
บางคนก็ติดธุระหน้าที่ก็ลืมไป โดยไม่ได้ใส่ใจว่าญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้วรอผลทานจากเรา
เพราะฉะนั้น วัดเทพเจติยาจารย์จึงได้จัดให้มีการสวดพระอภิธรรม เมื่อสวดพระอภิธรรมเรา
ก็ระลึกถึงญาติของเรา บุญกุศลใด ๆ ที่เราได้ทำบุญให้ทาน รักษาศีลภาวนาหรือสวดมนต์ ทำบุญใส่
บาตร เราก็มาอธิษฐานวันนี้ก็ได้ เมื่อเราอธิษฐานไปนั่นแหละญาติพี่น้องเขารอรับส่วนบุญ เขาก็จะ
ุ
อนุโมทนาบุญกุศล มันเป็นอย่างนี้ เพราะฉะนั้น การทำบุญใด ๆ ถ้ามีจิตบริสทธิ์แล้ว ปรารถนาดี
แล้ว มันก็ย่อมถึงแก่ญาติที่ล่วงลับไป
มาพูดถึงเรื่องพระอาจารย์หลวงพ่อ พระอาจารย์หลวงพ่อนี่โดนหลวงปู่มั่นให้ไปอยู่กับเสือ
ิ
่
แล้วก็นั่งสมาธิ ๓ วัน ๓ คืน หลวงปู่มั่นให้คนไปตามกลับมา หลวงปู่มั่นก็ได้อธิบายวาการทำสมาธนี่
ถ้าไปอยู่อย่างนั้นมันเข้าอรูปฌานนานเกินไป แทนที่มันจะเกิดประโยชน์แต่ไม่เกิดประโยชน์ ดีไม่ดี
ื
สมองมันหยุดทำงาน มันอาจจะทำน้อยเกินไปหรอว่ามันอาจจะเสื่อมได้ แต่หลวงปู่มั่นไม่ได้พูด
อย่างนี้ แต่ท่านพูดว่าการพูดของหลวงปู่มั่นนะหมายถึงว่าการไปอยู่ในอรูปฌานนานเกินไปนั่นมัน
ไม่เกิดสติปัญญาใด ๆ นี่คือเปรียบเทียบเหมือนคนนอนหลับอย่างนี้เวลานอน ๗ ชั่วโมง ๘ ชั่วโมง
หลับไปก็หลับไปอย่างงั้น มีองค์ไหนบรรลุธรรมในขณะนอนหลับบ้าง มันไม่มีหรอก เพราะมันไม่
เกิดสติปัญญา มันเป็นการพักผ่อนทางร่างกายและจิตใจ พักผ่อนเข้าไปก็พักผ่อนก็ได้เกิดกำลังกาย
กำลังใจขึ้นมา แต่มันไม่เกิดสติและปัญญา จะพิจารณาถึงธาตุ ๔ ดิน น้ำ ไฟ ลม ไม่ได้
เพราะฉะนั้น หลวงปู่มั่นจึงบอกว่าวิริยังค์อย่างเธอต้องทำสมาธิให้สม่ำเสมอ ทำเวลาใดก็ต้อง
ทำเวลานั้น ถ้าเธอทำ ๖ โมงเช้าก็ต้องตื่นมาทำ ๖ โมงเช้า อย่างพระกรรมฐานตี ๓ ท่านก็ตื่นขึ้นมา
ปฏิบัติธรรม เดินจงกรมก็ได้ นั่งสมาธิก็ได้ ทุกครั้งตี ๓ ก็ตื่นตี ๓ ก็มาเดินจงกรมนั่งสมาธิ ก็จะเป็น
อย่างนี้ เมื่อทำก็ทำให้สม่ำเสมอ แต่ถ้าทำมากไปทั้งวันทั้งคืน หลวงปู่มั่นก็พูดภาษาบาลีว่า “โลโภ
ธัมมานัง ปะริปันโถ” คือ การปฏิบัติธรรมที่มันมากเกินไป โลภอยากได้มากเกินไป มันก็เป็นกลับ
็
กิเลส มุ่งมั่นเกินไปกลับเปนกิเลส อยากได้เกินไป โลภมากเกินไป มันก็เลยติดใจของเรา ทำไม่มันจึง
ไม่เกิดสมาธิ ทำไมมันถึงไม่สงบซะที เราเดินก็เดินอีก นั่งก็นั่งอีก มันจึงเร็ว ๆ ติดใจของเรา เราตั้ง
ข้อมูลไว้แล้ว จะทำมาก ๆ เร็ว อยากจะได้เร็ว ๆ นี่มันตั้งโปรแกรมจิตของเราเอาไว้ แล้ว มันก็เลย
กั้นเอาไว้ พอกั้นเอาไว้มันก็ไม่ได้ดั่งใจ
เพราะฉะนั้น พอรู้ว่าเวลาเราทำสมาธ หลวงพ่อจึงบอกว่าให้ทำสมาธิสม่ำเสมอ “ภาวิโต พะหุ
ิ
ลี กะโต” หมายความว่าให้ทำสม่ำเสมอ อย่าหยุด ทำต่อเนื่อง แต่ไม่ใช่ว่าต้องทำตลอด ๒๔ ชั่วโมง
ทำเป็นเวลา เวลาเช้า กลางวัน และเวลาเย็น แต่ทำสม่ำเสมอไปอย่างนี้ ก็เหมือนกับเรารับประทาน
๑๘๓