Page 35 - ธรรมะบรรยาย2564
P. 35

แล้ว ก็ขอพุทธานุญาตใช้บาตรพระองค์ใส่น้ำเดินสวดรัตนปริตรพร้อมด้วยการประพรมน้ำพระพุทธ

               มนต์ไปจนทั่วพระนคร พอพระเถระเจ้าสวดขึ้นบท “ยังกิญจิ วิตตัง อิธะ วา หุงรัง วา” พวกอมนุษย์

               หัวดื้อก็ไม่ยอมหนีไปแต่แรกก็ทนอยู่ไม่ไหว ก็พากันชิงออกหนีจากประตูพระนครไปคนละทิศคนละ

               ทางอย่างเนืองแน่น  พวกอมนุษย์  โรคในตัวของมนุษย์ก็จางหายไป  จึงพากันลุกออกมาบูชาพระ

               เถระเจ้าด้วยเครื่องบูชาต่าง  ๆ  แล้วก็อัญเชิญสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปประทับที่กลางศาลา

               ภิกษุสงฆ์คณะลิจฉวี ราษฎรก็ไปเข้าเฝ้าที่นั่น แม้ท้าวสักกะเทวราชก็ทรงพาเทวดาทั้งปวงมาเข้าเฝ้า

               ด้วย  ฝ่ายพระอานนท์ที่ทำการรักษาทั่วกรุงเวสาลีก็มาเข้าเฝ้าและมีชาวพระนครเวสาลีติดตามเข้า

               เฝ้าเป็นอันมาก  รวมเข้าด้วยกันเป็นมหาสมาคมที่ยิ่งใหญ่  พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสรัตนปริตรซ้ำ

               อีกครั้งในมหาสมาคมนั้น เมื่อจบแล้วพระธรรมเทศนาสรรพอุปัทวาทั้งหลายก็จางหายไป เกิดความ

               สงบร่มเย็นเป็นสุข ชาวเมืองเกิดความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า เกิดความรู้ ความเข้าใจในพระ

               ธรรมเป็นจำนวนมาก แต่นั้นมา ฝนก็ตกต้องตามฤดูกาล พืชพรรณธัญญหารก็อุดมสมบูรณ์เหมือน

               ดังเดิม

                     เพราะฉะนั้น  คณะสงฆ์วัดเทพเจติยาจารย์และสาธุชนทุกท่านที่ฟังออนไลน์อยู่นี้  จะได้

               ร่วมกันสวดรัตนปริตรสืบต่อไป อันดับแรกขอเชิญทุก ๆ ท่าน อาราธนาพระปริตรโดยพร้อมกัน ซึ่ง

               การสวดพระปริตร เจ้าประคุณ สมเด็จพระญาณวชิโรดม หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธฺโร ท่านพูดว่า ใจนี่

               มันเป็นใหญ่ ท่านก็ยกเอาพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ตรัสว่า “มโนปุพพงฺคมา ธมฺมา” คือ

               ธรรมะนี่ เวลาเอาไปอยู่ในใจของใคร ถ้าเป็นสิ่งดีก็จะทำให้ใจนี่มีพลานุภาพไปในทางที่ดี แต่ถ้าหาก

               ธรรมะที่เราเอาเข้าไปนั้นมันไม่ดี ก็จะทำให้ใจนั้นไม่ดีด้วย เพราะฉะนั้น เราสวดมนต์นี่อยากจะเชิญ

               ชวนให้เราร่วมสวดมนต์กันเยอะ ๆ ท่านใดมีญาติ มีพี่มีน้อง มีสามี มีภรรยาหรือว่าเพื่อน ๆ ช่วยบอก

               ต่อ ๆ กันไปหน่อย อยากจะให้ร่วมสวดมนต์กันเยอะ ๆ ยิ่งสวดได้ทั่วโลกยิ่งดี ก็จะเป็นพลานุภาพ

               ยิ่งใหญ่กระจายไปทั่วโลก แต่เป็นกระจายพลังบวก

                     พระพุทธเจ้าเวลาจะแสดงธรรมะ         พระองค์ก็พิจารณาถึงสรรพสัตว์ทั้งหลายว่าใครมีบุญมี

               วาสนา  มีบารมีจะได้บรรลุธรรมหรือไม่ก็คือเชื้อของจิต  มีธรรมะในส่วนบวกหรือไม่  ถ้าหากว่าเชื้อ

               ของจิตเรานี่มีส่วนบวก มันก็จะเป็นกระแสบวก เวลาพระพุทธเจ้าส่งกระแสบวกไป มันก็จะรับได้ ก็

               เรียกว่ามันเป็นสัญญาณขึ้นมา อย่างโทรศัพท์ใช่ไหม เราโทรศัพท์ไปกริ๊ง ๆ ก็จะมีสัญญาณส่งถึงกัน

               ได้  เพราะฉะนั้น  การสวดมนต์นี่ก็เป็นการสวดเพื่อให้เกิดพลังงานบวกส่งกระจายไปทั่วโลก  ที่เรา

               อัญเชิญเทวดาก็คือพวกอมนุษย์ทั้งนั้นเลย      ที่บอกว่าขออัญเชิญเหล่าเทพเจ้าทั้งหลายที่สิงสถิต

               โดยรอบจักรวาล ในสวรรค์ชั้นกามภพก็ดี รูปภพก็ดี และในภูมิเทวดา ซึ่งสถิตในวิมานหรือในยอด



                                                           ๓๕
   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40