Page 5 - เรื่องทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม พว31001
P. 5

ต่อการเพาะปลูก ไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อม เช่น การเสียดสีกับเครื่องมือ และการปะทะกับหยดฝน

                              ้
       เป็นต้น เมื่อพูดถึงโครงสรางของดินที่เกี่ยวกับการเกษตร เราพิจารณา 3 เรื่อง ดังนี้
              1. รูปร่างและขนาดของโครงสร้างดิน

       รูปร่างของเม็ดดินที่มีรูปร่างคล้ายทรงกลม เป็นรูปร่างที่เหมาะสมที่สุดในการจัดการด้านโครงสร้างของดิน

                        ี่
       ขนาดที่เหมาะสมทสุดของเม็ดดินที่เป็นทรงกลมขนาด 0.25 มิลลิเมตร เพราะจะมีช่องว่างที่พอเหมาะในการท      ี่
                                                                           ี่
       จะท าให้เกิดการดูดยึดน้ า และการเคลื่อนที่ของอากาศและน้ า ในปริมาณทเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืช
       มากกว่าเม็ดดินที่มีขนาดเล็กและใหญ่กว่านี้

              2. ความคงทนของก้อนดิน

       หมายถึง การทนทานต่อแรงเสียดสีหรือแรงปะทะต่าง ๆ เช่น น้ า, หยดฝน, ลมถ้าก้อนดินไม่มีความคงทน


       น้ าฝนหรือลมก็จะทาให้ก้อนดินแตกยุ่ยได้ง่ายก็จะท าให้ดินที่แตกไปปิดช่องว่างท าให้น้ าไม่สามารถซึมลงไปใน
       ดินท าให้เกิดน้ าไหลบ่า (runoff)  ซึ่งน้ าจะพัดพาเอาหน้าดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ไปท าให้ได้พื้นที่    ที่ไม่

       เหมาะสมต่อการเพาะปลูกเนื่องจากขาดธาตุอาหาร และมีผลต่อการท างานของรากพืช
              3. ขนาดและความต่อเนื่องกันของช่องว่างในดิน

       โครงสร้างทเหมาะสมต่อการเพาะปลูกคือต้องมีขนาดใหญ่และขนาดเล็กในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน ความ
                 ี่

       ต่อเนื่องกันหรือการเชื่อมโยงต่อกันของช่องว่างในดินเป็นปัจจัยสาคัญปัจจัยหนึ่ง เนื่องจากพืชต้องการน้ าและ

       อากาศในการเจริญเติบโตในขณะที่รากพืชใช้พลังงานในการทากิจกรรมต่างๆซึ่งต้องใช้ก๊าซออกซิเจนในการท า
       ให้เกิดพลังงาน ส่วนของรากพืชต้องขับถ่ายของเสียพวกก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ส่วนน้ าช่วยในการละลายธาตุ

       อาหารให้อยู่ในรปของสารละลาย ถ้าช่องว่างในดินไม่มีความต่อเนื่องจะมีผลต่อการเจริญเติบโตของพืช
                      ู
       เนื่องจากรากของพืชขาด ก๊าซออกซิเจน และในดินมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากจะท าปฏิกิริยากับน้ าได้มาก

       ท าให้ได้กรดคาร์บอนิก (H CO  ท าให้ดินบริเวณนั้นเกิดเป็นดินกรดได้ ซึ่งมีผลต่อการเจริญเติบโตของพืชได้
                                    3)
                               2


       ความพรุนของดิน

                     ความพรุนของดิน คือช่องว่างในดิน ช่องว่างในดินประกอบด้วยช่องว่างขนาดใหญ่

       (macropore) น้ าและอากาศสามารถเคลื่อนที่ได้ดี และช่องว่างขนาดเล็ก (micropore) ซึ่งเป็นส่วนที่เก็บ

       ความชื้นไว้ น้ าจะไหลผ่านได้ยาก ในดินประเภทดินทรายซึ่งเป็นเนื้อดินหยาบ จะมีช่องว่างขนาดใหญ่มีจ านวน

       มาก โดยมีช่องว่างอยู่ระหว่าง 35 – 50 เปอร์เซ็นต์ ส่วนดินเหนียวซึ่งมีเนื้อดินละเอียด โดยมีช่องว่างขนาดเล็ก

                                                                                                       ั้
       อยู่เป็นจ านวนมากซึ่งมีช่องว่างอยู่ระหว่าง 40 – 60 เปอร์เซ็นต์ ในส่วนของดินที่อัดตัวแน่นจะมีช่องว่างทงหมด
       อยู่เพียง 25 – 30 เปอร์เซ็นต์



       2.การใช้ทรัพยากรธรรมชาติและผลกระทบ
   1   2   3   4   5   6   7   8   9   10