Page 130 - รายงานวิจัยน้ำทะเล_Neat
P. 130
120
มีค่าใช้จ่ายประมาณ 3,000-3,500 บาทต่อต้น (สวรรยา ธรรมอภิพล, 2555) โดยการวางเรียงเป็น
ก าแพงในแนวขนานไปกับชายฝั่งหรือเว้นระยะห่างตามความเหมาะสม และการใช้ไม้ไผ่ชะลอคลื่น
เป็นวิธีการปักไม้ไผ่เป็นแนวก าแพงริมชายฝั่งมีค่าใช้จ่ายในการซื้อไม้ไผ่ล าละ 70-80 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่
กับจ านวนไม้ไผ่ที่ใช้และความยาวของไม้ไผ่ วิธีการนี้มีค่าใช้จ่ายน้อยสุดแต่มีอายุการใช้งานที่สั้น
ประมาณ 1-3 ปี จึงต้องคอยดูแลและมีการซ่อมแซมอย่างต่อเนื่อง
4. ผลของการแก้ไขปัญหา
4.1 การเปลี่ยนแปลงทางด้านกายภาพและชีวภาพ
ภายหลังได้มีการสร้างแนวปูองกันในการกัดเซาะชายฝั่ง และมีการปลูกปุาชายเลน
เสริม เพื่อขยายพื้นที่ปุาชายเลนเพิ่มขึ้น สามารถปูองกันการกัดเซาะชายฝั่งเป็นอย่างดี จากการ
เปลี่ยนแปลงทางด้านกายภาพที่มีตะกอนดินมาทับถม มีการปลูกปุาหลังการเกิดตะกอนดิน นอกจากนี้
การเพิ่มพื้นที่ดินเลนงอกด้วยการปลูกไม้ปุาชายเลนจ าพวกแสมหรือโกงกางไว้ด้านหลังโครงสร้างปูองกัน
การกัดเซาะ ชายฝั่ง เพื่อช่วยยึดเกาะตะกอนดินและเพิ่มตะกอนดินช่วยท าให้เกิดพื้นที่งอกริมชายฝั่ง
และเพิ่มพื้นที่ปุาชายเลนขึ้น รวมทั้งเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ า ท าให้มีปริมาณสัตว์น้ าเพิ่มมากขึ้น
รวมทั้งมีนกหลายชนิดเข้ามาอยู่อาศัยเพิ่มขึ้น
4.2 การเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจและสังคม
ท าให้ชาวบ้านลดการสูญเสียที่ดินบริเวณชายฝั่ง ปูองกันการสูญเสียทุนทรัพย์ในการ
ย้ายที่อยู่อาศัย ลดความวิตกกังวลกับพื้นที่เสี่ยงต่อการถูกกัดเซาะชายฝั่ง และการประมงของชาวบ้านมี
แนวโน้มที่ดีขึ้น
ภาพที่ 4.7 แนวกั้นไม้ไผ่ชะลอคลื่น และการปลูกปุาชายเลน ภายในศูนย์เรียนรู้และปฏิบัติการอนุรักษ์
ฟื้นฟูฯ มหาชัยฝั่งตะวันออก หมู่ที่ 3 ต าบลโคกขาม
5. ปัจจัยความส าเร็จ/ความล้มเหลว
5.1 ปัจจัยความส าเร็จ
ในอดีตที่เริ่มจัดตั้งศูนย์เรียนรู้และปฏิบัติการอนุรักษ์ฟื้นฟูฯ มหาชัยฝั่งตะวันออก
หมู่ที่ 3 ต าบลโคกขาม โดยมีแกนน ากลุ่มชุมชนที่เข้มแข็งน าโดย นายนรินทร์ บุญร่วม ข้าราชการบ านาญ
อดีตประมงอ าเภอ อาจารย์ประสาน เอี่ยมวิจารณ์ อาจารย์โรงเรียนพันท้ายนรสิงห์ และนายสมชาย
ดวงล้อมจันทร์ แกนน ากลุ่มอนุรักษ์โคกขาม-พันท้ายนรสิงห์ เป็นแกนน าในการขับเคลื่อนให้ชาวบ้าน