Page 131 - รายงานวิจัยน้ำทะเล_Neat
P. 131

121



                       ในพื้นที่หมู่ที่ 3 ต าบลโคกขาม ในการเร่งฟื้นฟูชายฝั่งปูองกันไม่ให้แนวปุาชายเลนพังทลายมากไปกว่า
                       นี้ จึงท าให้มีเครือข่ายในต าบลอื่นของจังหวัดสมุทรสาครและสมุทรสงครามมาศึกษาดูงาน โดยมีแนวคิด
                       ส าคัญได้แก่
                                      ขั้นแรก ที่ต้องท าแบบเร่งด่วน คือการปูองกันแนวเขตจากชายฝั่ง 2 กิโลเมตร

                       ให้เป็น “เขตโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติตามแนวพระราชด าริเศรษฐกิจพอเพียงและ
                       การพัฒนาที่ยั่งยืน”  เพื่อสงวนไว้ให้ชาวบ้านหากิน โดยห้ามไม่ให้เรืออวนเข้ามาลากหอย ปลา ปู
                       ในเขตนี้ ซึ่งช่วยท าให้เลนในบริเวณนั้นตกตะกอน เป็นที่พักอาศัยหลบภัยและแหล่งหากินของสัตว์น้ า
                       วัยอ่อนได้ต่อไป  การแสดงเขตอนุรักษ์  ก็คือให้เจ้าของที่ดินพื้นที่นากุ้งติดทะเล  ปักไม้ไผ่ตงสูง  4  วา

                       หรือ  8  เมตร เอาไว้ปักปูาย (ไม้ไผ่อยู่ในน้ าทะเลขึ้นๆ ลงๆ อยู่ได้นาน  6-7  ปี)  โดยปักต้นไผ่จ านวน
                       2 ต้นทุกๆ ระยะ 1 เส้น (80 เมตร) ซึ่งวิธีนี้แก้ปัญหาเรือใหญ่ไม่ให้เข้ามาเบียดเบียนทรัพยากรธรรมชาติ
                       ชายฝั่งได้ แต่ยังไม่สามารถปูองกันคลื่นลม คลื่นทะเลกัดเซาะชายฝั่งได้
                                      ขั้นที่สอง ก็ต้องสร้างแนวกันคลื่น ขั้นตอนนี้จะปักกลุ่มไม้ไผ่ในลักษณะ 3 เหลี่ยม

                       กลุ่มละ 55 ต้น หน้ากว้างด้านละ 4.5 เมตร เพื่อลดแรงคลื่นที่จะปะทะฝั่ง เศษไม้ที่ลอยมาติดล าไม้ไผ่
                       ก็ใช้เสริมท าให้ตะกอนเลนตกในบริเวณนั้น ผลพลอยได้จากวิธีการนี้ก็คือ ชาวบ้านใช้ไม้ไผ่เลี้ยงหอยแมลงภู่
                                      ขั้นสุดท้าย คือการปลูกต้นไม้ชายเลนประเภทแสมสลับกับโกงกางเพื่อช่วยยึดและ

                       ประคองหน้าดิน จากการปรึกษาขอความรู้ด้านวิชาการ ท าให้ทราบว่าตะกอนจากการปักไม้ไผ่จะขยาย
                       ออกไปเรื่อยๆ  ส่วนปุาโกงกางนั้นถ้าขึ้นหนาแน่นเกินไปท าให้ต้นลีบหัวโต  ประสิทธิภาพในการกักดิน
                       ตะกอนลดน้อยลง  โดยทั่วๆ ไปนั้นต้นโกงกางมีความสูง  15  เมตรภายใน  5  ปี  ซึ่งอาจตัดฟันมาใช้
                       ประโยชน์ได้  โดยมีการปลูกทดแทนไปเรื่อยๆ  นอกจากนี้ได้จัดกิจกรรม  โดยมีอาสาสมัครทั้งประชาชน
                       ทั่วไป นักเรียน นิสิต นักศึกษา ข้าราชการ และหน่วยงานต่างๆ มาช่วยปลูกปุาชายเลนและเก็บขยะที่

                       ลอยมาติดตามแนวชายฝั่ง
                                  5.2 ปัจจัยความล้มเหลว
                                      เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นของนายทุนและพื้นที่อยู่อาศัยของตนเองไม่ได้อยู่ติด

                       กับชายฝั่ง จึงมองข้ามความส าคัญต่อผลกระทบด้านการกัดเซาะชายฝั่งที่เกิดขึ้น ท าให้ชาวบ้านมี
                       ส่วนร่วมค่อนข้างน้อย
                       6. ข้อเสนอแนะ
                                  6.1  กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง  ควรประสานงานกับองค์การบริหารส่วนต าบล

                       โคกขาม จัดท าแผนพัฒนาต าบลสามปีเพื่อตั้งงบประมาณ ในการด าเนินงานปักดูและรักษาและ
                       ซ่อมแซม แนวไม้ไผ่ โดยต้องเน้นการท าประชาพิจารณ์ควบคู่กันไป เพื่อเปิดโอกาสในคนในท้องถิ่นได้
                       เข้ามามีส่วนร่วม
                                  6.2  กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร และ

                       องค์การบริหารส่วนต าบลโคกขาม ต้องร่วมกันในการแก้ปัญหาการกัดเซาะและฟื้นฟูชายฝั่งทะเล โดย
                       อาจท าการใช้ต าบลโคกขามเป็นต้นแบบ ลดปัญหาน้ าทะเลกัดเซาะชายฝั่งหาดโคลน แล้วน าไปประยุกต์
                       ใช้ในพื้นที่อื่น หัวใจส าคัญของการท าแนวไม้ไผ่กันคลื่นอยู่ที่การกอบกู้ฟื้นฟูระบบนิเวศปุาชายเลน
                       กลับคืนมา
   126   127   128   129   130   131   132   133   134   135   136