Page 167 - รายงานวิจัยน้ำทะเล_Neat
P. 167
157
จังหวัดฉะเชิงเทรา และด้านตะวันตกของคลองด่านจากบ้านคลองด่าน อ าเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ
ไปถึงบ้านบางส าราญ อ าเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ระยะทางรวมประมาณ 20 กิโลเมตร ต่อมา
ได้มีการก่อสร้างแนวเขื่อนปูองกันการกัดเซาะชายฝั่งเพิ่มเติมในหมู่ที่ 6 ถึง หมู่ที่ 9 อีกเป็นระยะทาง
ประมาณ 4.3 กิโลเมตร ในพื้นที่ต าบลสองคลองต่อจากบ้านแสมขาวไปทางปากแม่น้ าบางปะกง
แต่เนื่องจากพื้นท้องทะเลมีสภาพเป็นดินเลนอ่อน มีการทรุดตัวของเขื่อนจึงต้องมีการเสริมระดับ
ความสูงของเขื่อนให้เหมาะสมกับระดับน้ าทะเล พื้นที่ชายฝั่งของอ่าวไทยตอนบนตั้งแต่ปากแม่น้ า
แม่กลอง แม่น้ าท่าจีน แม่น้ าเจ้าพระยาถึงปากแม่น้ าบางปะกง ประสบปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งที่
รุนแรงและต่อเนื่องมาตั้งแต่อดีต บางพื้นที่มีการกัดเซาะที่รุนแรงถึงขั้นวิกฤต โดยมีที่ดินถูกกัดเซาะไป
แล้วหลายพันไร่ ท าให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ สังคม และระบบนิเวศ
ช่วงเวลาที่มีการกัดเซาะมากที่สุด คือ ช่วงปี พ.ศ. 2530-2534 และมีการพังทลายมาก
ในปี พ.ศ.2537 เนื่องจากมีการเลี้ยงกุ้งกุลาด า ท าให้ปุาชายเลนได้รับความเสียหาย และประชาชน
บางส่วนต้องอพยพบ้านเรือนหลายครั้ง การขยายเพิ่มของที่ดินไม่มีเพิ่มเติมเนื่องจากมีเขื่อนกั้น มีการ
ปล่อยน้ าเสียของโรงงานท าให้ทรัพยากรทางทะเลเสียหายจ านวนมาก ส่งผลท าให้แผ่นดินหายไปใน
ทะเล
3. วิธีการแก้ไขปัญหาและกลไกการจัดการของชุมชน
นายสุชาติ แสวงไวศยสุข นายกองค์การบริหารส่วนต าบลสองคลอง (อบต.) อ าเภอ
บางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า พื้นที่อบต. สองคลอง ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ าทะเล
กัดเซาะชายฝั่ง เช่นเดียวกับอีกหลายพื้นที่ชายฝั่งทะเลในภาคตะวันออก โดยมีพื้นที่ 5 หมู่บ้านได้รับ
ผลกระทบอย่างหนัก จากปัญหานี้มานานถึง 30 ปี โดยขณะนี้ อบต. ได้ของบประมาณสนับสนุนจาก
จังหวัด เพื่อท าโครงการสร้างเขื่อนหินทิ้ง (กันชนหินทิ้ง) ตามแนวชายฝั่งทะเลของต าบลที่มีพื้นที่ติด
ชายทะเลรวมระยะทางกว่า 10.5 กิโลเมตร หลังจากที่ผ่านมา อบต. ได้เคยให้งบประมาณสนับสนุน
ชาวบ้านในการน าหินมาลงทิ้งตามแนวปากคลอง ในพื้นที่ 5 หมู่บ้าน พบว่า แนวเขื่อนหินทิ้งสามารถ
ช่วยปูองกันการกัดเซาะชายฝั่งได้ดี และยังมีการสะสมของตะกอนดินที่บริเวณด้านหลังแนวเขื่อนอีกด้วย
จนท าให้แนวชายฝั่งที่เคยถูกน้ าทะเลกัดเซาะหายไปนั้นเริ่มงอกกลับคืนมา รวมทั้งได้เริ่มมีพืชปุาชายเลน
ทั้งแสมและโกงกางเจริญเติบโตที่ด้านหลังแนวเขื่อนเพิ่มขึ้นอีกด้วย อย่างไรก็ตามจากปัญหาที่เกิด
ขึ้นมานาน 30 ปี อบต. ได้ตรวจสอบจากกรมเจ้าท่า พบว่าพื้นที่ต าบลสองคลองนั้น ได้ถูกน้ าทะเล
กัดเซาะผืนแผ่นดินหายไปแล้ว มากถึงกว่า 1,500 ไร่ มีหมู่บ้านหายไปเกือบ 2 หมู่บ้าน โดยเฉพาะ
พื้นที่หมู่ที่ 11 นั้น หมู่บ้านได้หายไปในทะเลหมดทั้งหมู่บ้าน
ขณะที่หมู่บ้านอื่นๆ ในคลอง 5 คลองในหมู่บ้านหายไปกว่าครึ่งหมู่บ้านจนชาวบ้านต้อง
พากันอพยพหลบหนีน้ าทะเลกัดเซาะไปอยู่ที่อื่นอีกหลายร้อยครัวเรือน โดยในระยะหนึ่งปีนั้นผืนดิน
จะถูกน้ าทะเลกัดเซาะหายไป ประมาณ 10-20 เมตร และมีบ้านเรือนชาวบ้านถูกน้ าซัดกัดเซาะลึกเข้า
มาปีละ 1 หลัง รวมปากคลองละ 2 หลัง ใน 5 หมู่บ้าน บางหมู่บ้านได้ถูกกัดเซาะเข้ามามากถึงกว่า
1 กิโลเมตร ซึ่งสามารถสังเกตเห็นได้จากแนวเสาไฟฟูาเข้าหมู่บ้านเดิม ซึ่งยังคงปักอยู่กลางน้ าในทะเล
จุดที่เคยเป็นหมู่บ้านมาก่อน “ที่ผ่านมาอบต. ได้แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการเทแนวเขื่อนหิน
ซึ่งเป็นภูมิปัญหาท้องถิ่นบริเวณปากคลองที่มีบ้านเรือนของชาวบ้านอาศัยอยู่ ปรากฏว่าได้ผล เพราะ
สามารถกันคลื่นได้ดีในตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ชาวบ้านและอบต.จึงมีโครงการที่จะทิ้งหินกัน