Page 168 - รายงานวิจัยน้ำทะเล_Neat
P. 168

158



                       คลื่นเพิ่มขึ้นอีกตลอดแนวชายฝั่ง  ทั้งระยะทาง 10.5  กิโลเมตร  โดยจะของบประมาณสนับสนุนจาก
                       จังหวัดเพื่อปูองกันการกัดเซาะอย่างถาวรต่อไป
                                  นายสมยศ จันทร์เกษม รองนายก อบต. ต าบลสองคลอง กล่าวว่า ที่ผ่านมาหมู่ที่ 6 ได้ถูก
                       น้ าทะเลกัดเซาะอย่างหนักจนชาวบ้านต้องอพยพหนีไปแล้วจ านวน 50  หลัง เมื่อประมาณ ปี พ.ศ.

                       2548  จึงได้เริ่มทดลองน าหินทิ้งท าเป็นแนวเขื่อนกันคลื่น ลักษณะสลับฟันปลาที่บริเวณปากคลอง
                       หมู่ที่ 6 ในปี พ.ศ. 2550 ทาง อบต. สองคลอง ได้ท าเขื่อนหินทิ้งระยะทาง 150 เมตร จ านวน 2 ฝั่ง
                       และในปี พ.ศ. 2558-2559  ทางกรมโยธาธิการและผังเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ท าเขื่อนหินทิ้ง
                       ระยะทาง 180  เมตร จ านวน 3 เขื่อน ปรากฏว่าปัจจุบันการกัดเซาะเริ่มลดลง  มีการงอกเพิ่มของ

                       ผืนดินมากขึ้นถึงปีละ 30  เมตร โดยเห็นได้อย่างชัดเจนที่บริเวณด้านหลังแนวเขื่อนหินทิ้งมีระดับ
                       พื้นดินสูงกว่าทางด้านหน้ามาก และยังมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติกลับคืนมาอีกด้วย โดยสังเกต
                       ได้จาก ปูทะเล ปลาตีน และปูเปี้ยว เริ่มกลับเข้ามาเพาะพันธุ์ในบริเวณปุาชายเลนที่เกิดใหม่แห่งนี้และ
                       ยังมีพันธุ์ไม้ปุาชายเลนงอกเพิ่มขึ้นที่ด้านหลังแนวเขื่อนอีกด้วย จึงประสงค์ให้รัฐบาลหันมาช่วย

                       ชาวบ้านด้วยการสนับสนุนงบประมาณในการท าโครงการนี้ต่อไป เนื่องจากงบของ  อบต. มีจ ากัดไม่
                       เพียงพอที่จะน ามาด าเนินการได้อย่างทั่วถึงทุกหมู่บ้านที่ยังได้รับผลกระทบอยู่
                                  ในพื้นที่หมู่ที่ 9  เป็นหมู่บ้านเดียวที่มีการด าเนินการโครงการปักแนวไม้ไผ่ปูองกันการ

                       กัดเซาะของคลื่น ผลจากการกัดเซาะของคลื่นท าให้ชายฝั่งพังเสียหาย เป็นระยะทางหลายกิโลเมตร
                       กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเข้ามาด าเนินการโครงการปักแนวไม้ไผ่เพื่อปูองกันและแก้ไข
                       ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง และมีโครงการต่อเนื่องในการเข้ามาด าเนินโครงการฯ ในพื้นที่ต าบล
                       สองคลองอีกจากหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะบริเวณวัดหงส์ทองซึ่งเป็นวัดประจ าหมู่บ้าน เมื่อปี พ.ศ.
                       2551 ขอสนับสนุนการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งด้วยการปักไม้ไผ่ในพื้นที่ต าบลสองคลอง โดยขอ

                       สนับสนุนงบประมาณปีละ 1 ล้านบาท จากงบยุทธศาสตร์จังหวัดเพื่อสนับสนุนการปักแนวไม้ไผ่ และ
                       ต่อเนื่องปี พ.ศ. 2552 มีการสนับสนุนงบประมาณ 4  ล้านบาท จากกรมทรัพยากรทางทะเลและ
                       ชายฝั่งเพื่อใช้ท าแนวปักไม้ไผ่ แต่การด าเนินการที่ผ่านมานั้นปักห่างจาก ฝั่งจนเกินไปท าให้ไม่สามารถ

                       กักตะกอนเลนได้ดีนัก ต่อมาในปี พ.ศ. 2553  ทางกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้ท าโครงการ
                       แก้ปัญหาการกัดเซาะและฟื้นฟูพื้นที่ชายฝั่งทะเล โดยการมีส่วนร่วมของประชาชน (ด้วยวิธีการปักไม้ไผ่)
                       บริเวณชายฝั่งทะเล หมู่ที่ 9 ต าบลสองคลอง อ าเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา มีความยาวแนวไม้ไผ่
                       390  เมตร ซึ่งการด าเนินโครงการก่อให้เกิดประโยชน์ในด้านการฟื้นฟูสภาพพื้นที่ให้กลับคืนสู่สมดุล

                       ธรรมชาติ  อันเป็นการเพิ่มที่อยู่อาศัยให้แก่สัตว์น้ าและเพิ่มแหล่งอนุบาลแก่สัตว์ทะเลวัยอ่อนในพื้นที่
                       ด าเนินงานโครงการ แต่ปัจจุบันไม้ไผ่ก็หลุดหักไปตามระยะเวลา ในปี พ.ศ. 2559 ได้มีการท าเขื่อนหินทิ้ง
                       โดยองค์การบริหารส่วนต าบลสองคลอง ท าการของบประมาณมาลงในพื้นที่หมู่ที่ 9  ด้านข้าง
                       วัดหงษ์ทอง

                                  ในปี พ.ศ. 2557  ทางองค์การบริหารส่วนต าบลสองคลอง ได้ของบประมาณมาลง
                       เขื่อนหินทิ้งหน้าหมู่ที่ 10 บ้านสีล้ง ต าบลสองคลอง อ าเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นแนวที่สอง
                       รองจากเขื่อนหินทิ้งของแนวไส้กรอกทรายเดิม และด้านหลังเขื่อนก่อให้เกิดตะกอนดินเพิ่มขึ้น ชาวบ้าน
                       ได้น าไม้หลัก มาปักเพื่อปลูกต้นแสมเป็นการเพิ่มพื้นที่ปุาชายเลนภายในพื้นที่หมู่ที่ 10
   163   164   165   166   167   168   169   170   171   172   173