Page 41 - ตำนานการสวดพระมาลัย
P. 41
๓๕
ี้
เนรมิตรพระเจดีย์นไว้ และยังได้พระเขยวแก้วเบื้องขวาขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อคราวปริน ิ
ี้
พานอันเตโชธาตุผลาญเผาพระวรกาย เหลือไว้แต่พระบรมสารีริกธาตุ ครั้นเมื่อโทนพราหมณ์ตวงแบ่ง
แล้วแอบฉวยเอาซ่อนไว้ในมวยผมแห่งตน ข้าพระองค์จึงอาราธนาอัญเชิญมาไว้ยังพระเจดีย์นี้ด้วย
บารมีของโทนพราหมณ์มีไม่พอที่จะได้ไว้
พระเจดีย์นี้ก่อด้วยแก้วอินทนิลเป็นส่วนฐานส่วนกลางนั้นเป็นทองแท้ นพคุณจรดยอดประดับ
ประดาสถาพรด้วยแก้วมณีเจ็ดประการ ความสูงนั้นได้แปดหมื่นวา กําแพงแก้วกาญจนายาวถ้วนแสน
หกหมื่นวาในแต่ละด้าน สองข้างนั้นประดับด้วยธงทิว ธงชาย ธงตะขาบหลากสีสรร พระเจดีย์นั้นเป็น
ที่สักการบูชาของเหล่าเทพยดาทั้งฉกามาวจรภพจรดโสฬสพรหมโลก
ุ
ิ
นอกมืองแห่งนี้ไปทางทศตะวันออกเฉียงเหนือยังมีอทยานใหญ่ชื่อว่าปุณฑริกวันมีกําแพงกั้น
้
โดยรอบทั้งสี่ด้าน ใจกลางสวนนั้นมีตนปาริชาตอันเป็นไม้ทิพย์ประจําทวีปพิภพดาวดึงส์ สูงจากโคนต้น
จรดยอดได้ ๑๐๐ โยชน ์
วัดโดยรอบตนได้ ๑๖ โยชน์ จากโคนต้นถึงคาคบ ๕๐ โยชน์ มีกิ่งอันใหญ่แผ่ไปยังสี่ทิศอันไกล
้
ได้กิ่งละ ๕๐ โยชน์ มีกําหนดบานดอกต้องครบ ๑๐๐ ปี ครั้นเมื่อคลี่บานรัศมีแห่งดอกปาริชาตน ี้
รุ่งเรืองไปไกลได แปดแสนวา
้
์
เมื่อเวลาพระพายพัดไปทางใดกลิ่นของดอกไม้นี้จักฟุูงตระลบอบอวลไปถ้วนทั่วสวรรค เหล่า
ั้
เทพบุตรเทพธิดานนจะมาชมดอกไม้อยู่ไม่ขาด กลิ่นปาริชาตจะทําให้รําลึกถึงอดีตชาตหนหลังในทันท
ี
แม้นมีใครต้องการดอกปาริชาตนั้นก็ไม่ต้องเด็ดต้องสอย ดอกปาริชาตจักลอยหลุดจากขั้วลงมาให้
จนถึงมือ แม้นไม่ยื่นยื้อมืออกไปรับจับเอาดอกไม้นั้นก็หาได้ตกถึงพื้นไม่ ยังลอยไว้เช่นนนแล
ั้
ใต้ต้นปาริชาตนี้จักมีแท่นศิลาสีแดงดั่งดอกชบา กว้าง ๕๐ โยชน์ ยาว ๖๐ โยชน์ หนาได้ ๑๕ โยชน์
นามว่าบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ อันเป็นแท่นประทับของข้าพระองค์ เวลานั่งลงจักยุบอ่อนลงนิ่มพอด ี
หากข้าพระองค์นี้ลุกออกมาแท่นศิลานี้จักเต็มคนดังเก่า หากคราวใดนั่งลงไปไม่ยุบกลับแข็งแกร่ง
ื
กระด้างจักเป็นลางบอกว่าผู้มีบุญญาธิการเกิดอุป๎ทวันตรายร้ายกาจทําให้ข้าพระองค์ต้องลงไป
ช่วยเหลือ
ไม่ห่างไกลจากต้นปาริชาตพรรณพฤกษามีศาลาอยู่หนึ่งหลังอลังการงามตระหง่านชื่อว่า ศาลาสุธรร
มาเทวสถานพื้นศิลาลาดด้วยแก้วผลึกและแก้วอินทนล กว้างยาวทั้งสิ้น ๓๐๐ โยชน์ วัดโดยรอบ
ิ