Page 45 - ตำนานการสวดพระมาลัย
P. 45
๓๙
เทวดามานมัสการพระเจดีย์จุฬามณี
ู่
ในขณะที่พระมาลัยคอยพบพระศรีอาริยเมตไตยและได้สนทนากับพระอินทร์อยนั้นก็มีขบวน
ของเทพบุตรองคหนึ่งพร้อมด้วยนางเทพอัปสรบริวารประมาณ ๑๐๐ นางเหาะเคลื่อนคล้อยลอยมาใน
์
อากาศครั้นเมื่อถึงพระเจดีย์ก็พากันกระทําประทักษิณสิ้นสามรอบแล้วเข้านมัสการพระเจดีย์ ท้าวสัก
กบดีเห็นพระมาลัยเถรทัศนาด้วยความสนใจ จึงบอกว่า "มิใช่พระบรมโพธิสัตว์ดอกพระคุณเจ้า
เทพบุตรผู้นั้นเป็นเพียงเทวสามัญธรรมดา
อดีตชาติกาลก่อนเป็นคนยากไร้เข็ญใจไปรับจ้างเที่ยวเกี่ยวหญ้าขายเลี้ยงชีพไปวัน ๆ มีอยู่วัน
หนึ่งนนครั้นถึงเวลากินข้าวกลางวัน เขานนแก้ห่อข้าวออกหมายจะเปิบเข้าปาก หากสายตาเขาแลเห็น
ั้
ั้
กาตัวหนึ่งบินมาจับต้นไม้ข้างๆ ท่าทางหิวเต็มที่ บรุษนี้มีความสงสารว่าคงจะหิวทรมานเหมือนกับตน
จึงป๎้นข้าวโยนให้กาไปกินหนึ่งก้อน ล่วงนานไปครั้นใกล้จะตายระลึกได้ถึงทานในครั้งน เมื่อสิ้นใจจึงได ้
ี้
ุ
เป็นเทวบตรมีนางฟูา ๑๐๐นางเป็นบริวาร อันเกิดจากกุศลผลทานอันให้ข้าวแก่กาซึ่งเป็นสัตว์
เดรัจฉานเพียงครั้งเดียวในชีวิตนนแล ขอรับพระคุณเจ้า "
ั้
ิ
เมื่อเทพบุตรนนกระทําการสักการเสร็จสิ้นก็เคลื่อนคล้อยถอยออกไปนั่งยังฝ๎่งทศตะวันออก
ั้
ของพระเจดีย์ ลําดับนั้นยังมีขบวนเทพบุตรองค์หนึ่งพานางเทพอัปสรจํานวน ๑,๐๐๐ ทรงพัสตรา
ั้
อาภรณ์เครื่องประดับอลงกรณ์งดงามยิ่งมีรัศมีรุ่งโรจน์โชตช่วงชชวาลน่าทัศนา เทวบุตรนนเหาะลอย
ิ
ั
มาบนอากาศเข้ากระทําประทักษิณนมัสการพระเจดย์ ท้าวสักกบดีเห็นพระเถรเจ้าสนใจจึงบอกว่า
ี
" นี่ก็มิใช่องค์พระบรมโพธิสัตว์ พลางตรัสถึงบุพกรรมของเทพบุตรผู้นนว่า เมื่อครั้งเขายังเป็น
ั้
มนุษย์เป็นเด็กเลี้ยงควายตามท้องนา วันหนึ่งถึงเพลาจะกินข้าวกลางวัน เขาก็แบ่งขาวที่ห่อมานนออก
้
ั้
แจกแบ่งให้เพื่อนเขากินด้วยตามประสาเด็กบังเกิดใจเมตตา ครั้นทํากาลกิริยาจึงมาบังเกิดเป็น
เทพบุตรผู้นี้มีนางเทพนารีเป็นบริวารจํานวน ๑,๐๐๐ อันเกิดจากกุศลผลทานกับมนุษย์ปุถุชนผู้ไม่มีศีล
ขอรับพระคุณเจ้า " เทพบุตรองค์นนกระทําการสักการนมัสการเสร็จก็พาขบวนเคลื่อนคล้อยถอย
ั้
ออกมานั่งยังด้านตะวันตกของพระเจดีย์
ลําดับนั้นยังมีเทพบุตรองค์หนึ่งแต่งกายด้วยอาภรณ์อันงดงามอลังการประดับสายสังวาลอัญ
มณีมีรัศมีอันรุ่งเรืองยิ่งกว่าเทพบุตรองค์ก่อน ๆ หน้า ลอยเลื่อนมากลางนภากาศพร้อมนางบริวาร
จํานวนหมื่นน่าตนตาตนใจยิ่งนักเข้าประทักษิณพระเจดีย์กระทํานมัสการ ท้าวสักกบดีเห็นพระเถรมี
ื่
ื่
ความสนใจจึงดํารัสอธิบายถึงบุพกรรมว่า "