Page 174 - 2557 เล่ม 1
P. 174
๑๗๔
ค าสั่งค าร้องที่ ย. ๒๙๐/๒๕๕๗ พนักงานอัยการจังหวัดอุบลราชธานี โจทก์
นายสกลหรือจ่อย บุญเรือน จ าเลย
ป.วิ.อ. อนุญาตให้ฎีกาในปงญหาข้อเท็จจริง มาตรา ๒๒๑
พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ.๒๕๕๐ มาตรา ๑๘
คดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ.๒๕๕๐
มาตรา ๑๘ บัญญัติให้ค าพิพากษาของศาลอุทธรณ์เป็นที่สุด หากจ าเลย
ประสงค์จะฎีกาก็ชอบที่จะยื่นค าร้องขออนุญาตฎีกาพร้อมกับฎีกาภายใน
ก าหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันอ่านหรือถือว่าได้อ่านค าพิพากษาศาลอุทธรณ์
เมื่อจ าเลยยื่นฎีกาโดยมิได้ยื่นค าร้องขออนุญาตฎีกาต่อศาลฎีกา แต่กลับยื่น
ค าร้องขอให้ผู้พิพากษาอนุญาตให้ฎีกาตาม ป.วิ.อ. จึงเป็นการด าเนิน
กระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่อาจอนุญาตให้จ าเลยฎีกาและรับฎีกา
ของจ าเลยไว้พิจารณาได้
______________________
ความว่า จําเลยฎีกาพร้อมกับยื่นคําร้องขอให้ผู้พิพากษาอนุญาตให้ฎีกา
ศาลชั้นต้นสั่งในคําร้องว่า คําพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นที่สุดตามพระราชบัญญัติ
วิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ.๒๕๕๐ มาตรา ๑๘ วรรคหนึ่ง จําเลยไม่มีสิทธิยื่น
คําร้องขออนุญาตฎีกา เว้นแต่จะได้ยื่นฎีกาและคําร้องขออนุญาตฎีกาต่อศาลฎีกา
ตามมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง ให้ยกคําร้อง และมีคําสั่งไม่รับฎีกาของจําเลย
จําเลยเห็นว่า จําเลยได้ยื่นฎีกาภายในกําหนดตามกฎหมายและฎีกา
ของจําเลยเป็นฎีกาที่เป็นสาระสําคัญแห่งคดีควรได้รับการวินิจฉัยจากศาลฎีกา
และจําเลยได้กระทําตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาครบถ้วนแล้ว
การที่ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาของจําเลยจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอศาลฎีกาได้โปรด
กลับคําสั่งของศาลชั้นต้นแล้วมีคําสั่งรับฎีกาของจําเลยไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ ไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้รับสําเนาคําร้อง