Page 175 - 2557 เล่ม 1

๑๗๕

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จําเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้
โทษ พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๑๕ วรรคสาม (๒), ๖๖ วรรคสอง ประกอบมาตรา ๑๐๐/๑

วรรคสอง ลงโทษจําคุก ๕ ปี และปรับ ๒๐๐,๐๐๐ บาท ไม่ชําระค่าปรับให้จัดการ

ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙, ๓๐ หากไม่ชําระค่าปรับให้กักขังแทน
๑ ปี ริบของกลาง

จําเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จําเลยฎีกา พร้อมกับยื่นคําร้องขอให้ผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อ

ในคําพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ฎีกาในปงญหาข้อเท็จจริง

ศาลชั้นต้นมีคําสั่งยกคําร้องและมีคําสั่งไม่รับฎีกา
จําเลยยื่นคําร้องนี้

ค าสั่ง พิเคราะห์แล้ว คดีนี้เป็นคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งพระราชบัญญัติ

วิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ.๒๕๕๐ มาตรา ๑๘ บัญญัติให้คําพิพากษาของ
ศาลอุทธรณ์เป็นที่สุด หากจําเลยประสงค์จะฎีกาก็ชอบที่จะยื่นคําร้องขออนุญาต

ฎีกาพร้อมกับฎีกาภายในกําหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันอ่านหรือถือว่าได้อ่าน

คําพิพากษาศาลอุทธรณ์ เมื่อจําเลยยื่นฎีกาโดยมิได้ยื่นคําร้องขออนุญาตฎีกาต่อ
ศาลฎีกา แต่กลับยื่นคําร้องขอให้ผู้พิพากษาอนุญาตให้ฎีกาตามประมวล

กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา จึงเป็นการดําเนินกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบ

ศาลฎีกาไม่อาจอนุญาตให้จําเลยฎีกาและรับฎีกาของจําเลยไว้พิจารณาได้
ที่ศาลชั้นต้นมีคําสั่งไม่รับฎีกาของจําเลยชอบแล้ว ให้ยกคําร้อง

(ทวีศักดิ์ ทองภักดี – อดิศักดิ์ ปัตรวลี – เฉลิมศักดิ์ ภัทรสุมันต์)

ประเสริฐ เสียงสุทธิวงศ์ - ย่อ
อดุลย์ ขันทอง/วิรัช ชินวินิจกุล - ตรวจ