Page 172 - 2557 เล่ม 1
P. 172
๑๗๒
ความว่า จําเลยไม่ประสงค์ฎีกาต่อไป ขอถอนคําร้องขออนุญาตฎีกากับฎีกา
และขอให้ออกหนังสือสําคัญเพื่อแสดงว่าคดีถึงที่สุดแก่จําเลย โปรดอนุญาต
หมายเหตุ ไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้รับสําเนาคําร้อง
จําเลยฎีกาพร้อมกับยื่นคําร้องขออนุญาตฎีกา
คดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา
จําเลยยื่นคําร้องนี้
ค าสั่ง พิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้จําเลยถอนคําร้องขออนุญาตฎีกาและฎีกาได้
ส่วนการออกหมายจําคุกเมื่อคดีถึงที่สุดแก่จําเลยนั้น แม้ว่าพระราชบัญญัติ
วิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ.๒๕๕๐ มาตรา ๑๘ วรรคหนึ่ง บัญญัติให้คําพิพากษา
ศาลอุทธรณ์ในส่วนความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเป็นที่สุด แต่คดีนี้จําเลยถูกฟ้องว่า
กระทําความผิดข้อหามีและพาอาวุธปืนตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ด้วย
ซึ่งตามมาตรา ๑๘ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด
พ.ศ.๒๕๕๐ บัญญัติให้คู่ความฎีกาเกี่ยวกับการกระทําความผิดกรรมอื่นได้ภายใต้
บทบัญญัติว่าด้วยการฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยใน
ส่วนความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ นั้น ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตาม
ศาลชั้นต้นให้จําคุกจําเลยมีกําหนด ๙ เดือน อันเป็นการลงโทษจําคุกจําเลย
ไม่เกิน ๕ ปี จึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปงญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมาย
วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๑๘ วรรคหนึ่ง เว้นแต่จะได้รับอนุญาตให้ฎีกา
ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๒๑ และไม่ต้องห้ามในข้อกฎหมาย ดังนั้น คดีในส่วน
ความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ จึงไม่อาจเป็นที่สุดในวันที่อ่านคําพิพากษา
ศาลอุทธรณ์ เพราะขณะนั้นคดียังไม่เสร็จไปทั้งเรื่อง จึงให้ศาลชั้นต้นออกหมาย
จําคุกเมื่อคดีถึงที่สุดแก่จําเลยย้อนหลังไปนับแต่วันสิ้นระยะเวลายื่นฎีกา
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๔๗ วรรคสอง ประกอบ
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕
อนึ่ง ที่จําเลยขอให้ออกหนังสือสําคัญเพื่อแสดงว่าคดีนี้ถึงที่สุดอันมีลักษณะ
เป็นคําขอตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๑๔๗ วรรคท้าย