Page 171 - 2557 เล่ม 1
P. 171
๑๗๑
ค าสั่งค าร้องที่ ย.๓๓/๒๕๕๗ พนักงานอัยการจังหวัดร้อยเอ็ด โจทก์
นายมังกร มีโวหาร จ าเลย
ป.วิ.อ. นําบทบัญญัติ ป.วิ.พ. มาใช้, ห้ามฎีกาในปงญหาข้อเท็จจริง, อนุญาตให้ฎีกา
ในปงญหาข้อเท็จจริง มาตรา ๑๕, ๒๑๘ วรรคหนึ่ง, ๒๒๑
ป.วิ.พ. คําพิพากษาถึงที่สุด มาตรา ๑๔๗ วรรคสอง
พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ.๒๕๕๐ มาตรา ๑๘ วรรคหนึ่ง วรรคสอง
พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ.๒๕๕๐ มาตรา ๑๘ วรรคหนึ่ง
บัญญัติให้ค าพิพากษาศาลอุทธรณ์ในส่วนความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
เป็นที่สุด แต่คดีนี้จ าเลยถูกฟ้องว่ากระท าความผิดข้อหามีและพาอาวุธปืน
ตาม พ.ร.บ. อาวุธปืนฯ ด้วย ซึ่งตามมาตรา ๑๘ วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.
วิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ.๒๕๕๐ บัญญัติให้คู่ความฎีกาเกี่ยวกับ
การกระท าความผิดกรรมอื่นได้ภายใต้บทบัญญัติว่าด้วยการฎีกาตาม ป.วิ.อ.
โดยในส่วนความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ นั้น ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ตามศาลชั้นต้นให้จ าคุกจ าเลยมีก าหนด ๙ เดือน อันเป็นการลงโทษจ าคุก
จ าเลยไม่เกิน ๕ ปี จึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม
ป.วิ.อ. มาตรา ๒๑๘ วรรคหนึ่ง เว้นแต่จะได้รับอนุญาตให้ฎีกาตามที่บัญญัติ
ไว้ในมาตรา ๒๒๑ และไม่ต้องห้ามในข้อกฎหมาย ดังนั้น คดีในส่วนความผิด
ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ จึงไม่อาจเป็นที่สุดในวันที่อ่านค าพิพากษา
ศาลอุทธรณ์ เพราะขณะนั้นคดียังไม่เสร็จไปทั้งเรื่อง จึงให้ศาลชั้นต้น
ออกหมายจ าคุกเมื่อคดีถึงที่สุดแก่จ าเลยย้อนหลังไปนับแต่วันสิ้นระยะเวลา
ยื่นฎีกาตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๑๔๗ วรรคสอง ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา ๑๕
______________________