Page 166 - 2557 เล่ม 1
P. 166

๑๖๖



               ค าสั่งค าร้องที่ ท.๑๘๘/๒๕๕๗        นายประเสริฐ ธีรโอฬารชินโชติ

                                                   กับพวก                                          โจทก์
                                                   กรมบังคับคดี กับพวก                 จ าเลย

               ป.วิ.อ. นําบทบัญญัติ ป.วิ.พ. มาใช้, อนุญาตให้ฎีกาในปงญหาข้อเท็จจริง

                      มาตรา ๑๕, ๒๒๑
               ป.วิ.พ. ห้ามฎีกาในปงญหาข้อเท็จจริง มาตรา ๒๔๘ วรรคสี่



                      ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค ๑ พิพากษายกฟ้องโจทก์ทั้งสอง
               ต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาตาม ป.วิ.อ. มาตรา ๒๒๐ หากโจทก์ทั้งสองประสงค์

               จะใช้สิทธิฎีกา โจทก์ทั้งสองต้องได้รับอนุญาตให้ฎีกาโดยผู้พิพากษาคนใด

               ซึ่งพิจารณาหรือลงชื่อในค าพิพากษาในศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์ภาค ๑

               พิเคราะห์เห็นว่าข้อความที่ตัดสินนั้นเป็นปัญหาส าคัญอันควรสู่ศาลสูงสุด

               และอนุญาตให้ฎีกาตาม ป.วิ.อ. มาตรา ๒๒๑ แต่ขั้นตอนในการที่จะขอให้
               ผู้พิพากษาอนุญาตให้ฎีกาดังกล่าว มิได้มีบัญญัติวางหลักเกณฑ์ไว้โดยเฉพาะ

               ใน ป.วิ.อ. จึงต้องน าบทบัญญัติแห่ง ป.วิ.พ. มาตรา ๒๔๘ วรรคสี่ มาใช้บังคับ

               โดยอนุโลมตาม ป.วิ.อ. มาตรา ๑๕ กล่าวคือ โจทก์ทั้งสองต้องยื่นค าร้อง

               พร้อมกับค าฟ้องฎีกาต่อศาลชั้นต้นขอให้ผู้พิพากษาคนใดซึ่งพิจารณาหรือ

               ลงชื่อในค าพิพากษาในศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์ภาค ๑ อนุญาตให้
               โจทก์ทั้งสองฎีกาได้ เมื่อโจทก์ทั้งสองยื่นฎีกาโดยมิได้ยื่นค าร้องเช่นว่านี้

               ศาลชั้นต้นจึงไม่มีหน้าที่จะต้องส่งฎีกาของโจทก์ทั้งสองไปให้ผู้พิพากษา

               ดังกล่าวพิจารณาอนุญาตให้ฎีกา ที่ศาลชั้นต้นมีค าสั่งไม่รับฎีกาของ

               โจทก์ทั้งสองนั้นชอบแล้ว
                                        ______________________



               ความว่า  โจทก์ทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นมีคําสั่งว่า คดีนี้ศาลอุทธรณ์ภาค ๑

               พิพากษายืนตามคําพิพากษาศาลชั้นต้นที่ยกฟ้อง คดีของโจทก์ทั้งสองต้องห้ามฎีกา
   161   162   163   164   165   166   167   168   169   170   171