Page 163 - 2557 เล่ม 1
P. 163

๑๖๓



               จําคุก ๒ ปี และปรับ ๒๐๐,๐๐๐ บาท หากไม่ชําระค่าปรับให้จัดการตามประมวล
               กฎหมายอาญา มาตรา ๒๙, ๓๐

                      จําเลยอุทธรณ์

                      ศาลอุทธรณ์ภาค ๕ พิพากษาแก้เป็นว่า โทษจําคุกให้รอการลงโทษไว้ ๒ ปี
               ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ และหากจําเลยไม่ชําระค่าปรับให้กักขังแทน

               ไม่เกิน ๑ ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคําพิพากษาศาลชั้นต้น

                      จําเลยฎีกาพร้อมกับยื่นคําร้องขอให้ผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อใน
               คําพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค ๕ อนุญาตให้ฎีกาในปงญหาข้อเท็จจริง

               ผู้พิพากษาดังกล่าวพิจารณาแล้วไม่อนุญาต ศาลชั้นต้นมีคําสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว

                      จําเลยยื่นคําร้องนี้
               ค าสั่ง  พิเคราะห์แล้ว ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจําคุกจําเลยกระทงละ ๑ ปี

               และปรับกระทงละ ๑๐๐,๐ ๐ ๐   บาท รวม ๒   กระทง จําคุก ๒   ปี และปรับ

               ๒๐๐,๐๐๐ บาท ศาลอุทธรณ์ภาค ๕ พิพากษาแก้เป็นให้รอการลงโทษจําคุกไว้
               แม้ศาลอุทธรณ์ภาค ๕ จะพิพากษาลงโทษจําคุกจําเลยไม่เกินห้าปี แต่เป็นกรณีที่

               ศาลอุทธรณ์ภาค ๕ พิพากษาแก้ไขมากให้รอการลงโทษจําเลย จึงไม่ต้องห้าม

               คู่ความฎีกาในปงญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
               มาตรา ๒๑๘ วรรคหนึ่ง ทั้งเป็นคดีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค ๕ พิพากษาให้

               ลงโทษปรับจําเลยกระทงละกว่าสี่หมื่นบาทไม่อยู่ในบังคับข้อห้ามมิให้คู่ความฎีกา

               ในปงญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๑๙
               เช่นกัน จึงให้รับฎีกาของจําเลยไว้พิจารณา และให้ศาลชั้นต้นดําเนินต่อไป


                   (สุทธิโชค เทพไตรรัตน์ – ทรงศิลป์ ธรรมรัตน์ – สวัสดิ์ สุรวัฒนานันท์)



                                                                    ประเสริฐ เสียงสุทธิวงศ์ - ย่อ
                                                            อดุลย์ ขันทอง/วิรัช ชินวินิจกุล - ตรวจ
   158   159   160   161   162   163   164   165   166   167   168