Page 160 - 2557 เล่ม 1
P. 160

๑๖๐



               นางสาวเพ็ญจนา นางสาวประภัสสร นางสาวตวงทอง นางสาวชญานิษฐ์
               นางสาวฐิติพร นางสาวสุพัตรา นางสาวอรุณรัตน์ นางสาวจารุวรรณ และนายมานพ

               คนละ ๑๕๗,๗๒๕ บาท ยกฟ้องโจทก์สําหรับจําเลยที่ ๔

                      จําเลยที่ ๒ และที่ ๓ อุทธรณ์
                      ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

                      จําเลยที่ ๒ ฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคําพิพากษา

               ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปงญหาข้อเท็จจริง
                      ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คงมีปงญหาที่เห็นสมควรวินิจฉัยเสียก่อนว่า ฎีกาของ

               จําเลยที่ ๒ ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา

               ความอาญา มาตรา ๒๑๖ บัญญัติว่า “ภายใต้บังคับแห่งมาตรา ๒๑๗ ถึง ๒๒๑
               คู่ความมีอํานาจฎีกาคัดค้านคําพิพากษาหรือคําสั่งศาลอุทธรณ์...”  สําหรับปงญหา

               ตามฎีกาของจําเลยที่ ๒ ว่า จําเลยที่ ๒ ร่วมกับจําเลยที่ ๑ ที่ ๓ และพวกกระทํา
               ความผิดตามคําพิพากษาศาลอุทธรณ์หรือไม่ จําเลยที่ ๒ ฎีกาคัดค้านคําพิพากษา

               ศาลอุทธรณ์ แต่เนื้อหาในฎีกาของจําเลยที่ ๒ ล้วนเป็นการโต้แย้งคําวินิจฉัยของ

               ศาลชั้นต้นทั้งสิ้น โดยจําเลยที่ ๒ คัดลอกข้อความมาจากคําอุทธรณ์ทั้งหมด
               แม้ในชั้นอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์มิได้หยิบยกข้อเท็จจริงที่จําเลยที่ ๒ อุทธรณ์

               ขึ้นวินิจฉัย จําเลยที่ ๒ ไม่ได้ฎีกาโต้แย้งคัดค้านว่าการที่ศาลอุทธรณ์ไม่ได้วินิจฉัย

               นั้นไม่ชอบอย่างไร โดยไม่เห็นด้วยกับคําพิพากษาศาลอุทธรณ์เพราะเหตุใด
               ที่ถูกแล้วศาลอุทธรณ์ควรวินิจฉัยอย่างไรและด้วยเหตุผลใด แต่จําเลยที่ ๒

               กลับยกข้อเท็จจริงทํานองเดียวกับที่เคยยกขึ้นกล่าวในศาลอุทธรณ์ขึ้นฎีกาซ้ําอีก

               จึงเป็นข้อเท็จจริงที่เพิ่งยกขึ้นในชั้นฎีกา และถือไม่ได้ว่าเป็นการคัดค้าน
               คําพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นฎีกาที่ไม่ชอบตามมาตรา ๒๑๖ ทั้งมิได้เป็นข้อความที่

               ศาลอุทธรณ์ได้ตัดสินไว้จึงไม่อาจใช้ดุลพินิจให้ฎีกาตามมาตรา ๒ ๒ ๑   ได้

               ที่ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกามานั้นเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
               ส่วนปงญหาข้อกฎหมายตามฎีกาของจําเลยที่ ๒ ว่าผู้เสียหายทั้งยี่สิบเจ็ดเป็น

               ผู้เสียหายโดยนิตินัยมีอํานาจร้องทุกข์หรือไม่ เมื่อเนื้อหาในฎีกาของจําเลยที่ ๒

               ล้วนเป็นข้อที่จําเลยที่ ๒   ได้อุทธรณ์โดยคัดลอกถ้อยคําต่าง ๆ ที่อุทธรณ์
   155   156   157   158   159   160   161   162   163   164   165