Page 159 - 2557 เล่ม 1
P. 159
๑๕๙
หรือไม่ชอบด้วยกฎหมายในข้อใดอย่างไร จึงเป็นฎีกาที่มิได้คัดค้าน
ค าพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ชอบด้วยมาตรา ๒๑๖
______________________
โจทก์ฟ้องและแก้ฟ้องขอให้ลงโทษจําเลยทั้งสี่ตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๓๔๑, ๓๔๓, ๘๓ และให้จําเลยทั้งสี่ร่วมกันใช้เงินคืนให้แก่ผู้เสียหาย ทั้งยี่สิบเจ็ดคน
คนละ ๑๕๗,๗๒๕ บาท รวมเป็นเงิน ๔,๒๕๘,๕๗๕ บาท
จําเลยที่ ๑ ให้การรับสารภาพ ศาลชั้นต้นมีคําสั่งให้โจทก์แยกฟ้อง
จําเลยที่ ๑ เป็นคดีใหม่
จําเลยที่ ๒ ที่ ๓ และที่ ๔ ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จําเลยที่ ๒ และที่ ๓ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๓๔๑ ประกอบด้วยมาตรา ๓๔๓ และมาตรา ๘๓ (ที่ถูก มาตรา ๓๔๓ วรรคแรก
ประกอบมาตรา ๘๓ โดยไม่ต้องปรับบทลงโทษตามมาตรา ๓๔๑) ลงโทษ
จําคุกจําเลยที่ ๒ และที่ ๓ คนละ ๓ ปี ปรากฏจากคําเบิกความของนายธวัช
และนายกิตติศักดิ์ผู้เสียหายว่า หลังจากจําเลยที่ ๑ หลบหนีหายหน้าแล้ว
จําเลยที่ ๓ ได้พยายามช่วยเหลือกลุ่มผู้เสียหาย โดยพาไปพักที่บ้านเช่า
แถวเมืองทองธานีและที่อําเภอวังน้อย และจําเลยที่ ๓ ได้ใช้เงินคืนให้แก่
นางอัมพรมารดาของนายกิตติศักดิ์ นางตลับมารดาของนายพงษ์เทพ
และนางอุทัยวรรณมารดาของนายจิรศักดิ์เพื่อบรรเทาผลร้ายบางส่วน ทั้งนําสืบ
รับข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเงินที่รับมาจากฝ่ายผู้เสียหายบางคนพอนับได้ว่า
มีเหตุบรรเทาโทษจึงลดโทษให้จําเลยที่ ๓ หนึ่งในสี่ตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๗๘ คงจําคุก ๒ ปี ๓ เดือน ให้จําเลยที่ ๒ และที่ ๓ ร่วมกันคืนเงินหรือใช้เงิน
แก่นางพงษ์เทพ และนายจิรศักดิ์ คนละ ๑๕๒,๗๒๕ บาท คืนเงินหรือใช้เงิน
แก่นายกิตติศักดิ์ จํานวน ๑๓๗,๗๒๕ บาท คืนเงินหรือใช้เงินแก่นายสุวรรณ์
นายสุวัฒน์หรือจ่าอากาศโทสุวัฒน์ นายเกรียงไกร นายวันชัย หรือสิบโทวันชัย
นายชิตพล นายสหรัฐ นายสัญญา นายอภิชาติ นายเอกรัฐหรือสิบเอกเอกรัฐ
นายธวัช นายสิทธิชัย นายนิรุตน์ นายรุ่งชัย นางสาวเกตุศิริ นางสาวรัชนี