Page 154 - 2557 เล่ม 1
P. 154

๑๕๔



                      ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปงญหาข้อกฎหมายต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์
               ข้อแรกว่า ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค ๑ มิได้อ้างประมวลกฎหมายอาญา

               มาตรา ๒๐ เป็นบทมาตราที่ยกขึ้นปรับด้วย คําพิพากษาศาลชั้นต้นและ

               ศาลอุทธรณ์ภาค ๑   ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
               มาตรา ๑๘๖ (๗)   หรือไม่ เห็นว่า ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๐

               เป็นบทบัญญัติที่ให้อํานาจศาลใช้ดุลพินิจในกรณีที่ความผิดที่กฎหมายกําหนดให้

               ลงโทษจําคุกและปรับ ถ้าศาลเห็นสมควรก็อาจใช้ดุลพินิจลงโทษจําคุกจําเลย
               เพียงสถานเดียว โดยไม่ลงโทษปรับด้วยก็ได้ มิใช่เป็นบทบัญญัติที่บัญญัติว่า

               การกระทําเช่นนั้นเป็นความผิดหรือเป็นบทกําหนดโทษแต่อย่างใด แม้ศาลชั้นต้น

               และศาลอุทธรณ์ภาค ๑   ลงโทษจําคุกจําเลยเพียงสถานเดียวในความผิด
               ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๓๙ วรรคสอง ประกอบมาตรา ๓๔๐ ตรี, ๘๐

               โดยมิได้อ้างประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๐ เป็นบทมาตราที่ยกขึ้นปรับด้วย
               ก็ไม่เป็นเหตุให้คําพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค ๑ ไม่ชอบด้วย

               ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๘๖ (๗) ที่ศาลชั้นต้น

               และศาลอุทธรณ์ภาค ๑ พิพากษามานั้นชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ข้อนี้ฟงงไม่ขึ้น
                      ปงญหาข้อกฎหมายข้อสุดท้ายต้องวินิจฉัยว่า การที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๑

               หยิบยกปงญหาเกี่ยวกับการริบรถจักรยานยนต์ของกลางขึ้นวินิจฉัยชอบด้วย

               กฎหมายหรือไม่ เห็นว่า คดีนี้ข้อเท็จจริงฟงงเป็นยุติว่า จําเลยพยายามกระแทก
               ประตูหน้าร้านที่เกิดเหตุเพื่อเข้าไปในร้านที่เกิดเหตุ แต่ไม่สามารถเข้าได้ จําเลยจึง

               ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป พฤติการณ์ของจําเลยดังกล่าวคงฟงงได้เพียงว่า

               จําเลยมีเจตนาใช้รถจักรยานยนต์ของกลางไปและกลับจากการกระทําความผิด
               เพื่อให้พ้นจากการจับกุมโดยสะดวกและรวดเร็วเท่านั้น ไม่ได้ใช้รถจักรยานยนต์

               ของกลางเป็นยานพาหนะในการกระทําผิดฐานพยายามชิงทรัพย์ทองคํารูปพรรณ

               ของผู้เสียหายโดยตรงแต่อย่างใด รถจักรยานยนต์ของกลางจึงมิใช่ทรัพย์สินอันพึง
               ริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓ (๑) และปงญหาว่ารถจักรยานยนต์

               ของกลางเป็นทรัพย์ที่ใช้ในการกระทําความผิดหรือไม่ เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับ

               ความสงบเรียบร้อย แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์ภาค ๑ ก็มีอํานาจ
   149   150   151   152   153   154   155   156   157   158   159