Page 150 - 2557 เล่ม 1
P. 150
๑๕๐
ค าพิพากษาศาลฎีกาที่ ๒๒๒๑/๒๕๕๗ พนักงานอัยการ
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โจทก์
นายศักดิ์สิทธิ์หรืออ้วน
พูลสวัสดิ์ จ าเลย
ป.อ. งดโทษปรับ มาตรา ๒๐
ป.วิ.อ. คําพิพากษาหรือคําสั่ง มาตรา ๑๘๖
ป.อ. มาตรา ๒๐ เป็นบทบัญญัติที่ให้อ านาจศาลใช้ดุลพินิจในกรณีที่
ความผิดที่กฎหมายก าหนดให้ลงโทษจ าคุกและปรับ ถ้าศาลเห็นสมควร
ก็อาจใช้ดุลพินิจลงโทษจ าคุกจ าเลยเพียงสถานเดียว โดยไม่ลงโทษปรับ
ด้วยก็ได้ มิใช่เป็นบทบัญญัติที่บัญญัติว่าการกระท าเช่นนั้นเป็นความผิด
หรือเป็นบทก าหนดโทษแต่อย่างใด แม้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค ๑
ลงโทษจ าคุกจ าเลยเพียงสถานเดียว โดยมิได้ปรับบทมาตราดังกล่าวด้วย
ก็ไม่เป็นเหตุให้ค าพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค ๑ ไม่ชอบด้วย
ป.วิ.อ. มาตรา ๑๘๖ (๗)
______________________
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจําเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๔,
๓๓๖ ทวิ, ๓๕๗ ให้จําเลยคืนกระเป๋าสตางค์พร้อมเงินสดหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืน
เป็นเงิน ๑,๕๐๐ บาท แก่ผู้เสียหาย
จําเลยให้การรับสารภาพข้อหาลักทรัพย์
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จําเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๓๓๔ ประกอบมาตรา ๓๓๖ ทวิ จําคุก ๖ ปี จําเลยให้การรับสารภาพ
เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวล
กฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจําคุก ๓ ปี ให้จําเลยคืนกระเป๋าสตางค์พร้อมเงินสด
หรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนเป็นเงิน ๑,๕๐๐ บาท แก่ผู้เสียหาย ข้อหาอื่นให้ยก
โจทก์อุทธรณ์