Page 148 - 2557 เล่ม 1
P. 148

๑๔๘



               ต่างเบิกความยืนยันว่า โจทก์ร่วมที่ ๒ และครอบครัวไม่เคยมีประวัติเสื่อมเสีย
               การกระทําของจําเลยนอกจากจะก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อร่างกาย จิตใจ

               และชื่อเสียงของโจทก์ร่วมที่ ๑ และที่ ๒ แล้ว ยังส่งผลกระทบต่อการศึกษาและ

               อนาคตของโจทก์ร่วมที่ ๒ ด้วย ที่โจทก์ร่วมทั้งสองขอให้จําเลยชดใช้ค่าสินไหม
               ทดแทนแก่โจทก์ร่วมทั้งสองเป็นเงิน ๒๕๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ

               ๗.๕ ต่อปี นั้นเหมาะสมแล้ว ที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๔ พิพากษายกฟ้องโจทก์

               และยกคําขอในส่วนแพ่งของโจทก์ร่วมทั้งสองนั้นไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา
               ฎีกาของโจทก์และโจทก์ร่วมทั้งสองฟงงขึ้น

                      อนึ่ง ในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้นได้มีพระราชบัญญัติ

               แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๑๙) พ.ศ.๒๕๕๐ มาตรา ๓
               ยกเลิกความในมาตรา ๒๗๗ เดิม และให้ใช้ข้อความใหม่แทน แต่กฎหมายที่

               แก้ไขใหม่ไม่เป็นคุณแก่จําเลย จึงต้องใช้กฎหมายที่ใช้ในขณะกระทําความผิดบังคับ
               และกรณีที่โจทก์ร่วมทั้งสองมีคําขอคิดดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี จากต้นเงิน

               ค่าเสียหาย ๒๕๐,๐๐๐ บาท นับถัดจากวันที่โจทก์ฟ้อง (วันที่ ๕ กันยายน ๒๕๕๐)

               แต่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้คิดดอกเบี้ยนับถัดจากวันที่โจทก์ร่วมทั้งสองยื่นคําร้อง
               ในคดีส่วนแพ่ง (วันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๕๑) นั้น เห็นว่า สิทธิเรียกร้องดอกเบี้ย

               ดังกล่าวเกิดตั้งแต่วันที่เกิดการกระทําความผิด (วันที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๕๐) ซึ่งเป็น

               การกระทําละเมิดในทางแพ่งด้วย ความรับผิดของจําเลยจึงรวมถึงดอกเบี้ยนับแต่
               วันที่กระทําละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๒๐๖ ประกอบ

               ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๔๗ แต่โจทก์ร่วมทั้งสองเลือกที่

               จะมีคําขอดอกเบี้ยนับถัดจากวันที่โจทก์ฟ้อง ซึ่งเป็นสิทธิที่พึงกระทําได้โดยชอบ
               ด้วยกฎหมาย การที่ศาลชั้นต้นไม่พิพากษาให้ดอกเบี้ยนับแต่วันที่โจทก์ขอ

               แม้จะเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่เนื่องจากโจทก์ร่วมทั้งสองไม่อุทธรณ์

               คําพิพากษาศาลชั้นต้นดังกล่าว ปงญหาข้อนี้จึงยุติไปตามคําพิพากษาศาลชั้นต้น
               แล้ว แม้โจทก์ร่วมทั้งสองจะฎีกาโดยมีคําขอดอกเบี้ยนับจากวันที่โจทก์ฟ้องมาด้วย

               ก็เป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์ภาค ๔ ไม่ชอบด้วย
   143   144   145   146   147   148   149   150   151   152   153