Page 144 - 2557 เล่ม 1

๑๔๔

ระหว่างพิจารณา นางหรือนางสาวจันทร์ลา ผู้เสียหายที่ ๒ และเด็กหญิง ส.
ผู้เสียหายที่ ๓ โดยผู้เสียหายที่ ๒ มารดาผู้แทนโดยชอบธรรมยื่นคําร้องขอเข้าร่วม

เป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต โดยให้เรียกผู้เสียหายที่ ๒ และที่ ๓ ว่า โจทก์ร่วมที่ ๑

และที่ ๒ ตามลําดับ
โจทก์ร่วมทั้งสองยื่นคําร้องขอให้จําเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นเงิน

๒๕๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไป

จนกว่าจะชําระเสร็จแก่โจทก์ร่วมทั้งสอง
จําเลยให้การในส่วนแพ่งว่า จําเลยไม่ได้กระทําความผิดตามฟ้อง

จึงไม่ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ขอให้ยกคําร้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จําเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๓๑๗ วรรคสาม, ๒๗๗ วรรคสอง เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษ

ทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑
ฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจาร จําคุก ๖ ปี และฐานกระทํา

ชําเราเด็กหญิงอายุยังไม่เกินสิบสามปี จําคุก ๑๒ ปี รวมจําคุก ๑๘ ปี กับให้จําเลย

ชําระเงิน ๒๕๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ของต้นเงิน
ดังกล่าวนับถัดจากวันฟ้อง (วันฟ้องในคดีส่วนแพ่งวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๕๑)

เป็นต้นไปจนกว่าจะชําระเสร็จแก่โจทก์ร่วมทั้งสอง

จําเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๔ พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องและยกคําขอในส่วนแพ่ง

ของโจทก์ร่วมทั้งสอง

โจทก์และโจทก์ร่วมทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟงงเป็นยุติโดยคู่ความมิได้โต้แย้งกัน

ในชั้นนี้ว่า เด็กหญิง ส. โจทก์ร่วมที่ ๒ เป็นบุตรของนายสมพร ผู้เสียหายที่ ๑ กับ

นางสาวจันทร์ลา โจทก์ร่วมที่ ๑ ขณะเกิดเหตุโจทก์ร่วมที่ ๒ อายุ ๑๒ ปีเศษ
พักอาศัยอยู่ด้วยกันกับผู้เสียหายที่ ๑ และโจทก์ร่วมที่ ๑ ในวันเวลาและสถานที่

เกิดเหตุตามฟ้อง โจทก์ร่วมที่ ๒ ไปเล่นสาดน้ําเนื่องในวันสงกรานต์ที่บริเวณ

สี่แยกหมู่บ้านโนนเมืองโคกกุง ภายหลังเจ้าพนักงานตํารวจกล่าวหาว่าจําเลย