Page 143 - 2557 เล่ม 1
P. 143
๑๔๓
เบิกความยืนยันถึงการกระท าความผิดของจ าเลย ทั้งจ าเลยก็น าสืบพัวพันว่า
วันเกิดเหตุได้พบกับโจทก์ร่วมที่ ๒ จริง พยานหลักฐานโจทก์และโจทก์ร่วม
จึงฟังได้มั่นคงปราศจากข้อสงสัยว่า วันเกิดเหตุจ าเลยพาโจทก์ร่วมที่ ๒
ไปกระท าช าเราจริง
โจทก์ร่วมทั้งสองมีค าขอคิดดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี
จากต้นเงินค่าเสียหาย ๒๕๐,๐๐๐ บาท นับถัดจากวันที่โจทก์ฟ้อง
(วันที่ ๕ กันยายน ๒๕๕๐) แต่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้คิดดอกเบี้ยนับถัดจาก
วันที่โจทก์ร่วมทั้งสองยื่นค าร้องในคดีส่วนแพ่ง (วันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๕๑)
นั้น สิทธิเรียกร้องดอกเบี้ยดังกล่าวเกิดตั้งแต่วันที่เกิดการกระท าความผิด
(วันที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๕๐) ซึ่งเป็นการกระท าละเมิดในทางแพ่งด้วย
ความรับผิดของจ าเลยจึงรวมถึงดอกเบี้ยนับแต่วันที่กระท าละเมิดตาม
ป.พ.พ. มาตรา ๒๐๖ ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา ๔๗ แต่โจทก์ร่วมทั้งสอง
เลือกที่จะมีค าขอดอกเบี้ยนับถัดจากวันที่โจทก์ฟ้องซึ่งเป็นสิทธิ
ที่พึงกระท าได้โดยชอบด้วยกฎหมาย การที่ศาลชั้นต้นไม่พิพากษา
ให้ดอกเบี้ยนับแต่วันที่โจทก์ขอแม้จะเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย
แต่เนื่องจากโจทก์ร่วมทั้งสองไม่อุทธรณ์ค าพิพากษาศาลชั้นต้นดังกล่าว
ปัญหาข้อนี้จึงยุติไปตามค าพิพากษาศาลชั้นต้นแล้ว แม้โจทก์ร่วมทั้งสอง
จะฎีกาโดยมีค าขอดอกเบี้ยนับจากวันที่โจทก์ฟ้องมาด้วย ก็เป็นข้อที่
มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์ภาค ๔ ไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ.
มาตรา ๒๔๙ วรรคหนึ่ง ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา ๔๐ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
______________________
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจําเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๑๗,
๒๗๗, ๙๑
จําเลยให้การปฏิเสธ