Page 142 - 2557 เล่ม 1
P. 142
๑๔๒
และโจทก์ร่วมทั้งสองว่า หลังจากบิดามารดาของโจทก์ร่วมที่ ๒ พ า
โจทก์ร่วมที่ ๒ มาแจ้งเหตุ พยานได้เรียกมารดาของจ าเลยมาเพื่อเจรจา
ตกลงกัน แต่จ าเลยปฏิเสธว่ามิได้กระท าความผิด พยานจึงให้บิดามารดา
ของโจทก์ร่วมที่ ๒ ไปร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานต ารวจ แต่หลังจากนั้น
มารดาของจ าเลยมาขอให้พยานไกล่เกลี่ยอีกครั้ง และตกลงค่าเสียหาย
ที่ฝ่ายจ าเลยต้องชดใช้ให้บิดามารดาของโจทก์ร่วมที่ ๒ จ านวน
๑๕๐,๐๐๐ บาท โดยบิดามารดาของโจทก์ร่วมที่ ๒ ต้องไปถอนค าร้องทุกข์
แต่คดีนี้ไม่อาจถอนค าร้องทุกข์ได้ จึงไม่อาจตกลงกันได้ หากจ าเลยมิได้
กระท าความผิดย่อมไม่มีเหตุที่มารดาของจ าเลยจะไปขอเจรจาตกลง
กับบิดามารดาของโจทก์ร่วมที่ ๒ ที่จ าเลยอ้างเป็นท านองว่า การไปเจรจา
ตกลงค่าเสียหายกับบิดามารดาของโจทก์ร่วมที่ ๒ เป็นการกระท าของ
มารดาจ าเลยโดยพลการ จ าเลยไม่ทราบเรื่องนั้นเป็นข้อกล่าวอ้างที่
เลื่อนลอยง่ายแก่การกล่าวอ้าง ค าเบิกความของโจทก์ร่วมที่ ๒ จึงมีน้ าหนัก
น่าเชื่อถือ แม้โจทก์ร่วมที่ ๒ จะเพิ่งแจ้งเหตุให้ผู้เสียหายที่ ๑ และโจทก์ร่วม
ที่ ๑ ทราบในเดือนมิถุนายน ๒๕๕๐ หลังเกิดเหตุนานถึง ๒ เดือน ก็เป็น
เพราะจ าเลยข่มขู่โจทก์ร่วมที่ ๒ และเมื่อจ าเลยทราบเรื่องที่โจทก์ร่วมที่ ๒
เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้เพื่อนฟัง จ าเลยก็มาท าร้ายโจทก์ร่วมที่ ๒
โจทก์ร่วมที่ ๒ จึงไม่กล้าเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้บุคคลใดฟังอีก เป็นเหตุให้
โจทก์ร่วมที่ ๒ ซึมเศร้า ชอบอยู่คนเดียว และคิดจะฆ่าตัวตาย จน บ. สังเกต
ได้ถึงความผิดปกตินี้และสอบถามเอาความจริงจากโจทก์ร่วมที่ ๒
ส่วนที่แพทย์ผู้ตรวจร่างกายโจทก์ร่วมที่ ๒ ไม่สามารถสรุปได้ว่าโจทก์ร่วมที่ ๒
ผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาแล้วหรือไม่ ก็มิได้หมายความว่าในวันเกิดเหตุ
โจทก์ร่วมที่ ๒ มิได้ถูกข่มขืนกระท าช าเรา เพียงแต่แพทย์ผู้ตรวจไม่สามารถ
สรุปได้เท่านั้นเอง ซึ่งอาจเป็นเพราะการตรวจหลังเกิดเหตุนานถึง ๒ เดือน
ก็เป็นได้ จึงหาเป็นพิรุธแก่พยานหลักฐานโจทก์และโจทก์ร่วมทั้งสองไม่
เมื่อโจทก์และโจทก์ร่วมทั้งสองมีโจทก์ร่วมที่ ๒ เป็นประจักษ์พยาน