Page 138 - 2557 เล่ม 1
P. 138

๑๓๘



               ค าพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๙๔๐/๒๕๕๗             พนักงานอัยการ

                                                          จังหวัดกาญจนบุรี              โจทก์
                                                          นายอาคม จิตนิยม             จ าเลย

               พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ.๒๕๕๐ มาตรา ๑๘, ๑๙


                          คดีนี้เป็นคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดจึงอยู่ในบังคับของ

               พ.ร.บ. วิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ.๒๕๕๐ ซึ่งมาตรา ๑๘ วรรคหนึ่ง

               บัญญัติว่า “ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาหรือมีค าสั่งโดยมิชักช้า

               และภายใต้บังคับแห่งบทบัญญัติมาตรา ๑๖ และมาตรา ๑๙ ค าพิพากษา

               หรือค าสั่งของศาลอุทธรณ์เฉพาะการกระท าซึ่งเป็นความผิดเกี่ยวกับ
               ยาเสพติดให้เป็นที่สุด”  และมาตรา ๑๙ วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “ในกรณีที่

               ศาลอุทธรณ์พิพากษาหรือมีค าสั่งในคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดตาม

               มาตรา ๑๘ วรรคหนึ่ง แล้วคู่ความอาจยื่นค าขอโดยท าเป็นค าร้องไปพร้อม
               กับฎีกาต่อศาลฎีกาภายในก าหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันอ่าน หรือถือว่าได้อ่าน

               ค าพิพากษาหรือค าสั่งของศาลนั้นให้คู่ความฝ่ายที่ขออนุญาตฎีกาฟัง

               เพื่อขอให้พิจารณารับฎีกาไว้วินิจฉัยก็ได้”  ปรากฏว่าในการยื่นฎีกาต่อ

               ศาลชั้นต้น จ าเลยได้ยื่นค าร้องฉบับลงวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๖ ขอให้

               ศาลฎีกาอนุญาตให้ฎีกาพร้อมฎีกา แต่ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นมีค าสั่งว่า
               รวมและมีค าสั่งรับฎีกาจ าเลย จึงเป็นการไม่ชอบ อย่างไรก็ตาม ศาลฎีกา

               พิจารณาแล้วเห็นว่าข้อความที่ตัดสินไม่เป็นปัญหาส าคัญที่ศาลฎีกา

               ควรจะได้วินิจฉัย จึงไม่อนุญาตให้ฎีกา

                                        ______________________


                      โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจําเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ

               พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๔,  ๗,  ๘,  ๑๕,  ๖๖,  ๑๐๐/๑,  ๑๐๒ ประมวลกฎหมายอาญา

               มาตรา ๓๒, ๓๓ ริบเมทแอมเฟตามีนของกลาง
   133   134   135   136   137   138   139   140   141   142   143