Page 136 - 2557 เล่ม 1
P. 136
๑๓๖
และกลับไปซื้อท่อจากบริษัทป๊อบซิสเต็มส์แอนด์เซอร์วิส จํากัด โจทก์ให้
หน่วยจัดซื้อกลางเชิญนายวิศนุ พนักงานของบริษัทไดเทคแอนดวานซ์ จํากัด
มาพบและทราบว่าไม่มีข้อต่อแบบที่โจทก์ใช้และไม่สามารถส่งมอบท่อสีเขียว
ให้เสร็จในเดือนมกราคม ปี ๒๕๕๒ โจทก์จึงตัดสินใจที่จะใช้สินค้าที่เคยใช้อยู่เดิม
คือสินค้าของบริษัทป๊อบซิสเต็มส์แอนด์เซอร์วิส จํากัด เพื่อให้บริษัทดังกล่าว
เสนอราคาเข้ามาใหม่ โจทก์ดําเนินการตามขั้นตอนของจําเลยโดยเสนอขอเปลี่ยน
ผู้จําหน่ายต่อนายประวิทย์และนายชินผู้มีอํานาจอนุมัติ โจทก์กระทําไปโดยสุจริต
ก็ดี ข้อมูลราคากลางที่โจทก์ส่งให้บริษัทป๊อบซิสเต็มส์แอนด์เซอร์วิส จํากัด
ไม่ได้เป็นความลับของจําเลย แต่เป็นข้อมูลของบริษัทไดเทคแอดวานซ์ จํากัด
ที่นํามาเสนอขายให้จําเลย จึงไม่ได้ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทํางาน ข้อ ๓.๗.๘
ก็ดี และที่จําเลยให้การว่าโจทก์ทําผิดข้อบังคับในการนําความลับไปเปิดเผย
แต่จําเลยไม่สามารถนําสืบให้สมกับที่ให้การไว้ก็ดี เห็นว่า อุทธรณ์ของโจทก์
ล้วนเป็นการโต้แย้งดุลพินิจในรับฟงงพยานหลักฐานของศาลแรงงานภาค ๒
เป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงาน
และวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๕๔ วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาไม่รับ
วินิจฉัย
มีปงญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ต่อไปว่า การเลิกจ้างเป็นธรรม
แก่โจทก์หรือไม่ โดยโจทก์อุทธรณ์ว่า หากเห็นว่าโจทก์กระทําไปเกินอํานาจ
ก็ควรที่จะตักเตือนเป็นหนังสือก่อน เพราะการกระทําของโจทก์ไม่ได้เป็น
ความผิดร้ายแรง การที่จําเลยเลิกจ้างโจทก์ไม่เป็นธรรม เห็นว่า การที่โจทก์
เรียกเอาผลประโยชน์จากพนักงานของบริษัทไดเทคแอดวานซ์ จํากัด
และส่งราคากลางของสินค้าไปให้บริษัทป๊อบซิสเต็มส์แอนด์เซอร์วิส จํากัด
เพื่อเสนอราคาเข้ามาใหม่ แม้บริษัทไดเทคแอดวานซ์ จํากัด จะปฏิเสธไม่ให้
ผลประโยชน์แก่โจทก์ และบริษัทป๊อบซิสเต็มส์แอนด์เซอร์วิส จํากัด จะเสนอราคา
เข้ามาใหม่ที่ต่ํากว่าบริษัทไดเทคแอดวานซ์ จํากัด ก็ตาม พฤติกรรมของโจทก์
ดังกล่าวส่อไปในทางไม่สุจริต ย่อมทําให้จําเลยไม่สามารถไว้วางใจให้โจทก์ทํางาน
กับจําเลยต่อไป การที่จําเลยเลิกจ้างโจทก์ด้วยเหตุดังกล่าวจึงนับว่าสมควร