Page 151 - 2557 เล่ม 1
P. 151

๑๕๑



                      ศาลอุทธรณ์ภาค ๑ พิพากษาแก้เป็นว่า ลงโทษจําคุก ๔ ปี ๖ เดือน ลดโทษ
               ให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ แล้ว คงจําคุก ๒ ปี ๓ เดือน

               นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคําพิพากษาศาลชั้นต้น

                      โจทก์ฎีกา
                      ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปงญหาข้อกฎหมายวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า

               ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค ๑ มิได้อ้างประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๐

               เป็นบทมาตราที่ยกขึ้นปรับด้วย คําพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค ๑
               ชอบด้วยกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๘๖ (๗) หรือไม่ ประมวล

               กฎหมายอาญา มาตรา ๒๐ เป็นบทบัญญัติที่ให้อํานาจศาลใช้ดุลพินิจในกรณีที่

               ความผิดที่กฎหมายกําหนดให้ลงโทษจําคุกและปรับ ถ้าศาลเห็นสมควรก็อาจใช้
               ดุลพินิจลงโทษจําคุกจําเลยเพียงสถานเดียว โดยไม่ลงโทษปรับด้วยก็ได้ มิใช่เป็น

               บทบัญญัติที่บัญญัติว่าการกระทําเช่นนั้นเป็นความผิดหรือเป็นบทกําหนดโทษ
               แต่อย่างใด แม้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค ๑   ลงโทษจําคุกจําเลย

               เพียงสถานเดียว โดยมิได้ปรับบทมาตราดังกล่าวด้วย ก็ไม่เป็นเหตุให้คําพิพากษา

               ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค ๑ ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
               ความอาญา มาตรา ๑๘๖ (๗) ที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค ๑ พิพากษามานั้น

               ชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟงงไม่ขึ้น

                      พิพากษายืน


                       (โสฬส สุวรรณเนตร์ – เกษม เกษมปัญญา – ไมตรี สุเทพากุล)


                                                                    ประเสริฐ เสียงสุทธิวงศ์ - ย่อ

                                                            อดุลย์ ขันทอง/วิรัช ชินวินิจกุล - ตรวจ
   146   147   148   149   150   151   152   153   154   155   156