Page 152 - 2557 เล่ม 1
P. 152

๑๕๒



               ค าพิพากษาศาลฎีกาที่ ๒๖๓๕/๒๕๕๗             พนักงานอัยการ

                                                          จังหวัดพระนครศรีอยุธยา     โจทก์
                                                          นายวัชรพงษ์หรือเอก

                                                          วรรณวงศ์                    จ าเลย

               ป.อ.  งดโทษปรับ มาตรา ๒๐


                      ป.อ. มาตรา ๒๐ เป็นบทบัญญัติที่ให้อ านาจศาลใช้ดุลพินิจในกรณีที่

               ความผิดที่กฎหมายก าหนดให้ลงโทษจ าคุกและปรับ ถ้าศาลเห็นสมควร
               ก็อาจใช้ดุลพินิจลงโทษจ าคุกจ าเลยเพียงสถานเดียว โดยไม่ลงโทษปรับ

               ด้วยก็ได้ มิใช่เป็นบทบัญญัติที่บัญญัติว่าการกระท าเช่นนั้นเป็นความผิด

               หรือเป็นบทก าหนดโทษแต่อย่างใด แม้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค ๑

               ลงโทษจ าคุกจ าเลยเพียงสถานเดียวในความผิด ตาม ป.อ. มาตรา ๓๓๙ วรรคสอง

               ประกอบมาตรา ๓๔๐ ตรี,  ๘๐ โดยมิได้อ้าง ป.อ. มาตรา ๒๐ เป็นบทมาตรา
               ที่ยกขึ้นปรับด้วยก็ไม่เป็นเหตุให้ค าพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค ๑

               ไม่ชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา ๑๘๖ (๗)

                      จ าเลยพยายามกระแทกประตูหน้าร้านที่เกิดเหตุเพื่อเข้าไปในร้าน

               ที่เกิดเหตุ แต่ไม่สามารถเข้าได้ จ าเลยจึงขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป

               พฤติการณ์ของจ าเลยดังกล่าวคงฟังได้เพียงว่าจ าเลยมีเจตนาใช้
               รถจักรยานยนต์ของกลางไปและกลับจากการกระท าความผิด เพื่อให้พ้น

               จากการจับกุมโดยสะดวกและรวดเร็วเท่านั้น ไม่ได้ใช้รถจักรยานยนต์

               ของกลางเป็นยานพาหนะในการกระท าผิดฐานพยายามชิงทรัพย์

               ทองค ารูปพรรณของผู้เสียหายโดยตรงแต่อย่างใด รถจักรยานยนต์ของกลาง
               จึงมิใช่ทรัพย์สินอันพึงริบตาม ป.อ. มาตรา ๓๓ (๑) และปัญหาว่า
   147   148   149   150   151   152   153   154   155   156   157