Page 352 - คู่มือติดต่อราชการฯ ภ.2
P. 352
339
ความเสียหายจากการกระทําในลักษณะแชร์ลูกโซ่หรือแบบพีระมิดที แฝงเข้ามาในระบบธุรกิจขายตรง
ซึ งสินค้าที ผู้ประกอบธุรกิจประเภทนี นํามาใช้ในการแอบอ้างทําธุรกิจขายตรงส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าที
ผู้บริโภคไม่คุ้นเคย โดยผู้ประกอบธุรกิจจะใช้วิธีการชักชวนให้ประชาชนมาสมัครเป็นสมาชิกเข้าร่วมเป็น
เครือข่าย และสัญญาว่าจะให้ประประโยชน์ตอบแทนจากการชักจูงผู้อื นให้เข้ามาร่วมเป็นเครือข่าย และแสดง
ให้ผู้ถูกชักจูงเห็นว่าจะได้รับเงินหรือกําไรมากกว่าประโยชน์ที ผู้นั นได้จ่ายไป โดยไม่คํานึงถึงรายได้จากการ
ขายสินค้า และเมื อผู้ประกอบธุรกิจระดมทุนได้ตามที ต้องการแล้วก็จะเลิกล้มไป ผลเสียจะตกแก่ผู้บริโภค
ซึ งที ผ่านมามีผู้บริโภคจํานวนมากได้รับความเสียหายจากการกระทําดังกล่าว ทําให้มองภาพลักษณ์ของ
ธุรกิจขายตรงไปในเชิงลบ และเป็นผลให้ผู้ประกอบธุรกิจขายตรงที สุจริตได้รับผลกระทบในการประกอบ
ธุรกิจไปด้วย
ส่วนการทําธุรกิจตลาดแบบตรงนั น จะไม่มีพนักงานขาย เพราะเป็นการขายสินค้า หรือบริการใน
ลักษณะของการสื อสารข้อมูลผ่านสื อต่างๆ เหล่านี ผู้บริโภคจึงไม่สามารถจับต้องสินค้าหรือเห็นรูปร่าง
ลักษณะของสินค้าได้อย่างชัดเจน ปัญหาที เกิดขึ นแก่ผู้บริโภคในขณะนี ส่วนใหญ่พบว่าสินค้าที ผู้บริโภค
สั งซื อมักจะไม่ตรงกับคํากล่าวอ้างตามที ได้โฆษณาผ่านสื อต่างๆ และเมื อผู้บริโภคใช้สิทธิคืนสินค้าตามที ผู้
ประกอบธุรกิจให้คํารับประกันความพอใจก็ไม่ได้รับเงินคืน หรือได้รับเงินคืนล่าช้าเกินควร ปัญหาและความ
จําเป็นที กล่าวมานี ปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายใดออกมากํากับดูแลการประกอบธุรกิจขายตรงและตลาดแบบ
ตรงแม้ว่าขณะนี จะได้นําพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๒๒ และพระราชกําหนดการกู้ยืมเงินที
เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. ๒๕๒๗ ซึ งแก้ไขเพิ มเติม พ.ศ. ๒๕๓๔ มาใช้บังคับก็ยังไม่สอดคล้องกับ
ข้อเท็จจริงและปัญหาที เกิดขึ นได้ทั งหมด และเมื อเกิดความเสียหายก็ไม่สามารถติดตามตัวผู้ประกอบธุรกิจ
มาลงโทษและช่วยเหลือผู้บริโภคให้ได้รับความเป็นธรรมเท่าที ควร ดังนั น สํานักงานคณะกรรมการคุ้มครอง
ผู้บริโภคจึงได้ยกร่างพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. ... ขึ น เพื อให้มีมาตรการทางกฎหมาย
โดยเฉพาะออกมาควบคุมกํากับดูแลให้การประกอบธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรงดําเนินธุรกิจไปใน

