Page 354 - คู่มือติดต่อราชการฯ ภ.2
P. 354
341
พระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. ๒๕๔๕ ได้บัญญัติให้ความคุ้มครองผู้บริโภคใน
ประเด็นต่างๆ ดังนี
๑. ในการซื อขายสินค้าหรือบริการ ผู้ประกอบธุรกิจขายตรงและผู้ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงต้องส่ง
มอบการซื อขายให้แก่ผู้บริโภค ซึ งเอกสารดังกล่าวต้องเป็นภาษาไทย ระบุชื อผู้ซื อผู้ขายวันที ซื อขาย วันที ส่ง
มอบ และสิทธิของผู้บริโภคในการเลิกสัญญา (เฉพาะสิทธิเลิกสัญญาต้องกําหนดด้วยตัวอักษรที เห็นเด่นชัด
กว่าข้อความทั วไป) แต่ถ้าคณะกรรมการขายตรงและตลาดแบบตรงเห็นว่า เพื อให้ผู้บริโภคได้รับความ
คุ้มครองมากขึ น อันเนื องมาจากราคาสินค้าหรือประเภทสินค้า คณะกรรมการฯ มีอํานาจเลิกสัญญา วิธีการ
คืนสินค้า การรับประกันสินค้า หรือการเปลี ยนสินค้าในกรณีมีความชํารุดบกพร่องแต่ถ้าหากผู้ประกอบธุรกิจ
ไม่ได้จัดให้มีรายละเอียดในเอกสารดังกล่าวย่อมไม่มีผลผูกพันผู้บริโภค
๒. การซื อสินค้าหรือบริการในธุรกิจขายตรงหรือตลาดแบบตรงนั น กฎหมายกําหนดให้ผู้บริโภคมี
สิทธิเลิกสัญญาได้ โดยการส่งหนังสือแสดงเจตนาไปยังผู้ประกอบธุรกิจภายใน ๗ วัน นับแต่วันได้รับสินค้า
หรือบริการ แต่การใช้สิทธิเลิกสัญญานี ไม่สามารถนําไปใช้กับสินค้าหรือบริการได้ทุกชนิด ขึ นอยู่กับประเภท
ราคา หรือชนิดของสินค้าหรือบริการ ซึ งจะได้กําหนดในพระราชกฤษฎีกาต่อไป
๓. เมื อผู้บริโภคใช้สิทธิเลิกสัญญาแล้ว กฎหมายกําหนดเป็นหน้าที ของผู้บริโภคต้องเลือกปฏิบัติอย่าง
ใดอย่างหนึ ง ดังนี
๓.๑ ส่งคืนสินค้าไปยังผู้จําหน่ายอิสระ ตัวแทนขายตรง ผู้ประกอบธุรกิจขายตรง หรือ ส่งคืน
สินค้าไปยังผู้ประกอบธุรกิจตลาดแบบ แล้วแต่กรณี
๓.๒ เก็บรักษาสินค้าไว้ภายในระยะเวลา ๒๑ วัน นับแต่วันที ใช้สิทธิเลิกสัญญา เมื อพ้นกําหนด
แล้วจะเก็บรักษาสินค้านั นไว้หรือไม่ก็ได้และต้องส่งคืนเมื อผู้ประกอบธุรกิจมาขอรับคืน ณ ภูมิลําเนาของ
ผู้บริโภค แต่ถ้าผู้ประกอบธุรกิจขอให้ผู้บริโภคส่งคืนทางไปรษณีย์ โดยเรียกเก็บเงินปลายทางภายใน

