Page 13 - COJ-2020_
P. 13
๓.๒. ศาลชั้นอุทธรณ์
ศาลที่มีอำานาจพิจารณาพิพากษาคดีที่อุทธรณ์คำาพิพากษาหรือคำาสั่งของศาลชั้นต้นตามบทบัญญัติ
แห่งกฎหมายว่าด้วยการอุทธรณ์ รวมทั้งมีอำานาจพิจารณาคำาสั่งอื่น ๆ เช่น มีคำาสั่งเกี่ยวกับการขอประกันตัว
ในคดีอาญาและการขอทุเลาการบังคับในคดีแพ่ง เป็นต้น การพิจารณาของศาลอุทธรณ์มีลักษณะเป็น
การตรวจสอบหรือทบทวนคำาพิพากษาของศาลชั้นต้น มิใช่เป็นการพิจารณาคดีใหม่ และมีอำานาจพิจารณา
และวินิจฉัยคดีเกี่ยวกับการเลือกตั้งและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหาร
ท้องถิ่น ศาลอุทธรณ์จะมีองค์คณะประกอบด้วยผู้พิพากษาอย่างน้อย ๓ คน
ในขณะเดียวกัน ยังมี “ศาลอุทธรณ์คดีชำานัญพิเศษ” มีอำานาจหน้าที่พิจารณาพิพากษาคดีที่อุทธรณ์
คำาพิพากษาหรือคำาสั่งของศาลชำานัญพิเศษ ซึ่งจะมีแผนกคดีชำานัญพิเศษทำาหน้าที่พิพากษาคดีเฉพาะด้าน
ได้แก่แผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ มีอำานาจพิจารณาพิพากษาคดีที่อุทธรณ์
คำาพิพากษาหรือคำาสั่งของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ แผนกคดีภาษีอากร มีอำานาจ
พิจารณาพิพากษาคดีที่อุทธรณ์คำาพิพากษาหรือคำาสั่งของศาลภาษีอากร แผนกคดีแรงงาน มีอำานาจพิจารณา
พิพากษาคดีที่อุทธรณ์คำาพิพากษาหรือคำาสั่งของศาลแรงงาน แผนกคดีล้มละลาย มีอำานาจพิจารณาพิพากษา
คดีที่อุทธรณ์คำาพิพากษาหรือคำาสั่งของศาลล้มละลาย แผนกคดีเยาวชนและครอบครัว มีอำานาจพิจารณา
พิพากษาคดีที่อุทธรณ์คำาพิพากษาหรือคำาสั่งของศาลเยาวชนและครอบครัว
ในการดำาเนินงานนั้น ทั้งศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค และศาลอุทธรณ์คดีชำานัญพิเศษแต่ละศาล
จะมีกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลแต่ละศาลทำาหน้าที่ช่วยผู้พิพากษาศาลนั้น ๆ ในการตรวจสอบข้อเท็จจริง
และค้นคว้าปัญหาข้อกฎหมายเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการตัดสินคดีความ
12