Page 1039 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 1039
๑๐๒๗
น ามาใช้ได้ ดังนี้ (๑) กักกัน (๒) ห้ามเข้าเขตก าหนด (๓) เรียกประกันทัณฑ์บน (๔) คุมตัวไว้ในสถานพยาบาล
(๕) ห้ามการประกอบอาชีพบางอย่าง ซึ่งเป็นมาตรการในการป้องกันการกระท าความผิด พบว่ากระบวนการ
ั
ิ
ตั้งแต่ชั้นสอบสวน ชั้นพจารณาของพนักงานอยการ และชั้นพจารณาของศาล ยังไม่มีกระบวนการสืบค้น
ิ
่
ข้อเท็จจริงที่จะน ามาประกอบการพิจารณาเพื่อบังคับใช้วิธีการเพื่อความปลอดภัยในแต่ละกรณีเทาที่ควร ท าให้
ไม่สามารถบังคับใช้วิธีการเพอความปลอดภัยอย่างจริงจัง จึงต้องกลับไปมุ่งเน้นที่การบังคับโทษ อนน ามาซึ่ง
ื่
ั
ปัญหาความแออัดของผู้ต้องขังในเรือนจ า เพื่อเป็นการแก้ปัญหาดังกล่าวข้างต้น สมควรเพิ่มกระบวนการสืบค้น
ื่
ข้อเท็จจริงของผู้กระท าความผิดในด้านต่างๆมาประกอบการพจารณา เพอบังคับใช้โทษหรือวิธีการเพอความ
ื่
ิ
ปลอดภัยที่เหมาะสม ซึ่งเป็นการปราบปรามควบคู่ไปกับการป้องกนการกระท าความผิดอย่างเป็นระบบสัดส่วน
ั
สอดคล้องต้องกันตามหลักความสมควรแก่เหตุ ปัญหาอาชญากรรมในสังคมที่มีแนวโน้มจะเพมขึ้นทุกปีก็
ิ่
สามารถควบคุมได้และมีปริมาณลดลง ดังนั้นกระบวนการสืบค้นข้อเท็จจริงเฉพาะตัวจ าเลยหรือผู้ต้องหา จึง
จ าเป็นต่อการน าวิธีการเพอความปลอดภัยมาบังคับใช้ เครื่องมือที่ศาลสามารถน ามาใช้เท่าที่ปรากฏเป็น
ื่
รูปธรรมในขณะนี้คือรายงานของพนักงานคุมประพฤติ ซึ่งจะพบว่าข้อมูลในส่วนส าคัญส าหรับกรณีศึกษานี้คือ
ี
ื้
ลักษณะครอบครัว นิสัย ความประพฤติ ประวัติในการถูกด าเนินคดี ในแต่ละส่วนพบเป็นเพยงรูปแบบพนฐาน
ทั่วไป มิได้เจาะจงถึงที่มาของปัญหาโดยเฉพาะด้านจิตใจเท่าใดนัก แต่ในปัจจุบันมีศาลบางศาลมีการด าเนินการ
จัดตั้งคลินิกให้ค าปรึกษาด้านจิตสังคม และเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์ให้ค าปรึกษาแนะน าและประสานการประชุม
เพอแก้ไขบ าบัดฟนฟ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่คาดหมายว่าจะมีประสิทธิภาพเพยงพอในการสืบค้นข้อเท็จจริงในเชิงลึก
ี
ู
ื่
ื้
ิ
ของผู้กระท าความผิด และเป็นกระบวนการที่สนับสนุนการพจารณาพพากษาคดีให้สามารถใช้วิธีการแก้ไข
ิ
์
พฤติกรรมที่หลากหลายเหมาะสมกับสภาพปัญหา เพื่อลดการกระท าผิดซ้ า เจตนารมณของคลินิกให้ค าปรึกษา
ื่
ด้านจิตสังคมดังกล่าวสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของการบังคับใช้วิธีการเพอความปลอดภัย ที่เน้นการป้องกันการ
กระท าความผิด เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยและความสงบสุขของสังคม
แนวคิดเกี่ยวกับการลงโทษและวิธีการเพื่อความปลอดภัย
ในกระบวนการด าเนินคดีอาญานั้น เมื่อเกิดการกระท าความผิดทางอาญาขึ้น รัฐมีหน้าที่สืบสวน
ื่
ั
สอบสวนหาตัวผู้กระท าความผิดผ่านทางพนักงานสอบสวน เพอน าตัวผู้กระท าความผิดส่งต่อพนักงานอยการ
ด าเนินการยื่นฟองเข้าสู่กระบวนการพจารณาคดีชั้นศาล เมื่อศาลมีค าพพากษาว่าผู้ใดกระท าความผิดตามที่ถูก
ิ
ิ
้
้
ฟอง ย่อมต้องมีการก าหนดโทษอย่างใดอย่างหนึ่งดังที่บัญญัติไว้ในกฎหมายอาญา อนเป็นเรื่องของการ
ั
ปราบปรามผู้กระท าความผิด ซึ่งเป็นกระบวนการภายหลังมีการกระท าความผิดไปแล้ว ดังนั้นสิ่งที่ส าคัญ
นอกเหนือการปราบปรามคือเรื่องของการป้องกันมิให้มีการกระท าความผิดในอนาคต เพอสร้างความสงบสุข
ื่
ให้แก่สังคม

